การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง

การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง

8 พฤษภาคม 2568 เทคนิคบริหารคลินิก 45เข้าชม

ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพยากรล้ำค่าทางธุรกิจ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจสุขภาพและความงาม ที่ต้องดูแลข้อมูลผู้ป่วยและข้อมูลทางการแพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน และความเป็นส่วนตัวสูง ระบบโปรแกรมอย่าง ProClinic ที่เข้ามามีบทบาทในการจัดการระบบบริหารคลินิกความงามที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของคลินิกความงามทั่วประเทศ จึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและระบบ เป็นลำดับต้น ๆ เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจคลินิกสามารถให้บริการได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐานกฎหมาย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับแนวทางการบริหารจัดการระบบความปลอดภัยคลินิกของ ProClinic ตั้งแต่การดูแลข้อมูล ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยและบุคลากรในคลินิกอย่างครบถ้วน

ProClinic มีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างไร?


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


ProClinic วางระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลโดยมีมาตรการในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็น

  • การเข้ารหัสข้อมูล โดยทุกข้อมูลที่ส่งและจัดเก็บในระบบ ProClinic ถูกเข้ารหัสด้วยเทคโนโลยี SSL/TLS เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูล
  • การจำกัดสิทธิ์การเข้าถึง โดยออกแบบให้มีการกำหนดสิทธิ์ของผู้ใช้งานในระบบตามตำแหน่งหน้าที่ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่เวชระเบียน จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีทั้งหมดได้ เพื่อความปลอดภัย และความลับที่สำคัญเฉพาะระดับผู้บริหารที่เข้าถึงได้ 
  • การตรวจสอบและล็อกกิจกรรม โดยมีบันทึกการใช้งานของผู้ใช้ทั้งหมดเพื่อใช้ในการตรวจสอบย้อนหลังเมื่อเกิดความผิดปกติ
  • ระบบยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้งาน

เราสำรองข้อมูลอย่างไร?


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


ProClinic มีระบบ Data Backup อัตโนมัติรายวัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ข้อมูลจะถูกสำรองไว้บนคลาวด์ที่มีความปลอดภัยสูง
  • มีระบบ Replication เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายหากเกิดความเสียหายกับเซิร์ฟเวอร์หลัก
  • สามารถกู้คืนข้อมูลได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

หากเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ProClinic มีมาตรการอย่างไร?


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


ProClinic มีข้อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ PDPA (Personal Data Protection Act) อย่างเคร่งครัด โดยหากเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล จะมีมาตรการรับมือที่รวดเร็ว และรัดกุม ไม่ว่าจะเป็น 

  • แจ้งเตือนผู้ใช้ระบบและผู้ได้รับผลกระทบทันที
  • รายงานเหตุการณ์ต่อหน่วยงานกำกับดูแลภายใน 72 ชั่วโมง
  • ดำเนินการสอบสวนและแก้ไขจุดรั่วไหลอย่างรวดเร็ว

ผู้ใช้บริการมีหน้าที่อย่างไรในการรักษาความปลอดภัยของบัญชี?


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


แม้ ProClinic จะมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่การได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้งานจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวได้มากขึ้น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการตั้งรหัสผ่านง่าย ๆ หรือใช้รหัสซ้ำกับระบบอื่น
  • ไม่แชร์บัญชีผู้ใช้กับผู้อื่น
  • อัปเดตซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ
  • ใช้งานบนอุปกรณ์และเครือข่ายที่เชื่อถือได้

ProClinic ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่?


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


แน่นอนว่า ProClinic ดำเนินงานโดยยึดตามแนวทางของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) อย่างครบถ้วน ทั้งในด้านการขอความยินยอม การจัดเก็บ และการประมวลผลข้อมูล โดยมีนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy) ที่ชัดเจน และให้สิทธิผู้ใช้สามารถจัดการข้อมูลของตนเองได้ มั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวที่เป็นข้อมูลทางการแพทย์จะไม่รั่วไหล และถูกเปิดเผยโดยไม่ได้รับความยินยอม

คลินิกทุกแห่งควรมีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอะไรบ้าง


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


ProClinic เชื่อว่า คลินิกความปลอดภัย ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนในหลายมิติ เพื่อให้คลินิกความงามและคลินิกเวชกรรมต่าง ๆ สามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย ถูกกฎหมาย และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้ารับบริการอย่างสูงสุด ซึ่งแนวทางและมาตรฐานที่ควรมีในคลินิกที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ประกอบด้วย

1. สิทธิและความปลอดภัยของคนไข้หรือผู้เข้ารับบริการ

คลินิกควรให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด เช่น การรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ การได้รับคำอธิบายที่เข้าใจง่าย การได้รับความเป็นส่วนตัวในการรักษา รวมถึงการได้รับบริการอย่างเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจต่อแบรนด์คลินิก

2. มีระบบรองรับเรื่องยา

ควรมีการจัดเก็บยาอย่างถูกต้องตามหลักเภสัชกรรม เช่น แยกประเภทของยา ยาอันตราย และเวชภัณฑ์อื่น ๆ ออกจากกัน มีการควบคุมวันหมดอายุของยาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมมีระบบบันทึกการเบิกจ่ายยาอย่างแม่นยำ ปลอดภัย เพื่อป้องกันการใช้ยาผิดและรับประกันคุณภาพของการรักษา

3. ความปลอดภัยในการทำหัตถการ-การผ่าตัด

ควรมีคู่มือแนวปฏิบัติมาตรฐาน (Standard Operating Procedure - SOP) สำหรับการทำหัตถการและการผ่าตัดต่าง ๆ โดยต้องใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อ ปลอดเชื้อทุกครั้ง รวมทั้งการใช้ถุงมือ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันตามมาตรฐานอย่างครบถ้วน และต้องมีการอบรมเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานได้อย่างถูกวิธี

4. การดมยาหรือสงบประสาทแบบเหมาะสม ปลอดภัยตามมาตรฐานวิชาชีพ

หากคลินิกมีบริการที่เกี่ยวข้องกับการดมยาหรือให้ยาสลบ จำเป็นต้องมีวิสัญญีแพทย์หรือบุคลากรที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างถูกต้องตามหลักวิชาชีพ พร้อมมีอุปกรณ์ฉุกเฉินรองรับ เช่น เครื่องช่วยหายใจ ชุดกู้ชีพ และระบบแจ้งเตือน เพื่อรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน

5. การควบคุมการติดเชื้อภายในคลินิก

การควบคุมการติดเชื้อเป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในสถานพยาบาล คลินิกควรมีจุดล้างมือ แอลกอฮอล์เจลวางกระจายตามจุดบริการ มีการกำจัดขยะติดเชื้อแยกจากขยะทั่วไป รวมถึงมีการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ และพื้นที่ให้บริการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

6. ระบบข้อมูลเวชระเบียนมาตรฐาน

การเก็บรักษาข้อมูลคนไข้ควรเป็นไปตามข้อกำหนด PDPA และมาตรฐานวิชาชีพ ต้องมีการเก็บเวชระเบียนอย่างเป็นระบบ ปลอดภัยจากการเข้าถึงของบุคคลภายนอก โดย ProClinic ก็เป็นโปรแกรมคลินิกที่ออกแบบระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย ช่วยให้การดูแลและติดตามผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

7. สภาพแวดล้อมและความปลอดภัยของอาคาร-สถานที่

อาคารคลินิกต้องแข็งแรง ปลอดภัย มีการจัดผังพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น แยกพื้นที่รอ พื้นที่หัตถการ และห้องพักฟื้น มีทางหนีไฟ อุปกรณ์ดับเพลิง กล้องวงจรปิด และระบบเตือนภัยต่าง ๆ ตามมาตรฐานสถานพยาบาล

8. มีระบบตอบสนองความต้องการและเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจน รวดเร็ว

คลินิกควรมีช่องทางให้ผู้ใช้บริการสามารถแสดงความคิดเห็นหรือร้องเรียนได้ พร้อมมีทีมงานรับผิดชอบประสานงานและดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยการรับฟังเสียงผู้ใช้บริการถือเป็นหนึ่งในกระบวนการพัฒนาคุณภาพอย่างยั่งยืน

9. ความสำคัญของบุคลากรในองค์กร

การมีบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นรากฐานของคลินิกที่ดี ควรมีการฝึกอบรมพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องวิชาชีพ การบริการ และความรู้เรื่องความปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความรับผิดชอบ และใส่ใจต่อผู้เข้ารับบริการ

10. คลินิกต้องมีใบประกอบกิจการที่ถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข หรือองค์กรที่รับผิดชอบ

เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค คลินิกต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงสาธารณสุข ใบอนุญาตของแพทย์หรือพยาบาล และใบอนุญาตสำหรับหัตถการพิเศษ โดยต้องแสดงเอกสารเหล่านี้อย่างชัดเจนในพื้นที่ให้บริการ


การรักษาความปลอดภัยของ ProClinic มีมาตรฐานอะไรบ้าง


ความปลอดภัยของข้อมูลและระบบการให้บริการคือรากฐานสำคัญของการเปิดคลินิกที่ปลอดภัย ทำให้ผู้รับบริการสามารถไว้วางใจได้ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้ในระยะยาว ProClinic จึงพัฒนาและปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ทุกธุรกิจคลินิกที่ใช้ระบบ ProClinic จะดำเนินการได้อย่างปลอดภัย มีมาตรฐาน และเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล ทำให้คุณเองก็เป็นเจ้าของคลินิกความงามได้อย่างมืออาชีพ ควบคู่กับยกระดับคลินิกของตัวเองให้เป็นระดับสากลได้


คำถามที่พบบ่อย


ProClinic เข้ารหัส (Encryption) ข้อมูลหรือไม่?

มีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล (data encryption) เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต


สามารถตั้งสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลได้หรือไม่?

ProClinic มีฟีเจอร์สำหรับ กำหนดสิทธิ์การเข้าถึง (Permission Control) ซึ่งช่วยให้เจ้าของคลินิกสามารถควบคุมว่า ใครในแต่ละตำแหน่งจะเห็นหรือจัดการข้อมูลอะไรได้บ้าง เช่น แยกระหว่างพนักงานต้อนรับ แพทย์ และผู้บริหาร ซึ่งมีข้อดีคือป้องกันการเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้รับอนุญาต และลดความเสี่ยงในการรั่วไหลของข้อมูลผู้ป่วย


มีระบบ Log บันทึกการใช้งานไหม?

ProClinic มี ระบบ Log (Audit Trail) สำหรับบันทึกการใช้งานของผู้ใช้ภายในระบบ เพื่อช่วยตรวจสอบปัญหาเมื่อมีข้อผิดพลาดหรือการใช้งานผิดปกติ และเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสในการดำเนินงาน  เช่น 

  • ใครเข้าสู่ระบบเมื่อไหร่
  • แก้ไขข้อมูลใดบ้าง
  • ลบ/เพิ่มรายการอะไร
  • ตรวจสอบย้อนหลังได้
  • ประโยชน์


ถ้าเปลี่ยนพนักงานใหม่ ต้องจัดการบัญชียังไง?

ถ้าเปลี่ยนพนักงานใหม่ในระบบ ProClinic หรือระบบคลินิกทั่วไป ควรดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. ยกเลิกบัญชีพนักงานเก่า โดยปิดการใช้งานหรือลบบัญชี เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล
  2. สร้างบัญชีพนักงานใหม่ พร้อมระบุชื่อ ตำแหน่ง และมอบสิทธิ์ตามหน้าที่
  3. กำหนดสิทธิ์การเข้าถึง โดยให้เข้าถึงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นตามตำแหน่งของงาน เช่น เคาน์เตอร์ แพทย์ หรือผู้จัดการ
  4. อัปเดตรายชื่อผู้มีสิทธิ์ใช้งานระบบ Log เพื่อให้ระบบบันทึกประวัติการใช้งานถูกต้อง
  5. อบรมการใช้งานระบบ เพื่อให้ใช้งานระบบได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย