ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้ ("ข้อกำหนด") จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบตามกฎหมายระหว่าง บริษัท โปรคลินิก กรุ๊ป จำกัด ("ผู้ให้บริการ" หรือ "บริษัท" หรือ "เรา") และท่าน ("ผู้ใช้บริการ") ในฐานะผู้ใช้บริการของเรา
เราขอแนะนำให้ท่านอ่านข้อกำหนดนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจใช้บริการของเรา เนื่องจากการตกลงสมัครเข้าใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ www.proclinicth.com ของเรานั้น ถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดทั้งหมดที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ ซึ่งจะมีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างท่านและบริษัทของเรา
1. คำนิยาม
เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันในการอ่านและตีความข้อกำหนดฉบับนี้ คำและวลีต่อไปนี้มีความหมายดังนี้:
- "ข้อตกลง" หมายถึง ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้ทั้งหมด รวมถึงเอกสารอื่นใดที่อ้างถึงในข้อกำหนดนี้
- "คู่สัญญา" หมายถึง บริษัท โปรคลินิก กรุ๊ป จำกัด และผู้ใช้บริการที่ได้ตกลงใช้บริการของบริษัท
- "ค่าบริการ" หมายถึง ค่าธรรมเนียมรายปีที่ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ต้องชำระให้แก่บริษัทตามรอบระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา โดยอัตราค่าบริการจะเป็นไปตามที่ระบุในใบเสนอราคาที่ผู้ใช้บริการได้รับ
- "ข้อมูล" หมายถึง ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่ผู้ใช้บริการหรือบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้ใช้บริการได้ให้ไว้แก่บริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม
- "ข้อมูลลับ" หมายถึง ข้อมูลต่างๆ ที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งได้เปิดเผยให้แก่คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะโดยวาจา ลายลักษณ์อักษร หรือในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีลักษณะเป็นความลับและไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งนี้ ไม่รวมถึงข้อมูลใดๆ ที่ได้มีการเผยแพร่สู่สาธารณชนแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
- "ทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึง สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ลิขสิทธิ์ สิทธิในแบบผลิตภัณฑ์ ความลับทางการค้า และสิทธิอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะได้จดทะเบียนไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม
- "บริการ" หมายถึง การให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารจัดการคลินิกความงามในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการจัดการข้อมูลลูกค้า การนัดหมาย การจัดการสต็อกสินค้า และการออกรายงานต่างๆ และอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการได้ใช้งานซอฟต์แวร์
- "ผู้ใช้งานในระบบ" หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่นใดที่ไม่ใช่ผู้ใช้บริการที่เป็นคู่สัญญากับบริษัทโดยตรง แต่ได้รับอนุญาตหรือมอบหมายจากผู้ใช้บริการให้สามารถเข้าใช้ระบบหรือบริการในนามของผู้ใช้บริการได้
- "ท่าน" หรือ "ผู้ใช้บริการ" หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับบริษัท โปรคลินิก กรุ๊ป จำกัด ในการใช้บริการของเรา
- "เรา" หรือ "บริษัท" หรือ "ผู้ให้บริการ" หมายถึง บริษัท โปรคลินิก กรุ๊ป จำกัด
- "เว็บไซต์" หมายถึง proclinicth.com ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการให้บริการของบริษัท
2. การให้บริการ
- รายละเอียดของบริการ:
บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์จัดการคลินิกความงามในรูปแบบออนไลน์ โดยรายละเอียดของแพคเกจและรูปแบบการให้บริการต่างๆ จะปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ของเรา ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของบริการได้ตามความเหมาะสม โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางที่เหมาะสม - การพัฒนาและปรับปรุงบริการ:
บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ดังนั้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ฟีเจอร์ หรือการทำงานของบริการได้ตลอดเวลา โดยบริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านช่องทางอีเมล หรือการประกาศบนหน้าเว็บไซต์ - การอนุญาตให้ใช้บริการ:
บริษัทอนุญาตให้ท่านใช้บริการซอฟต์แวร์ผ่านทางเว็บไซต์ตามแพคเกจการใช้บริการที่ท่านได้เลือกไว้ โดยสิทธิในการใช้งานนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ และอยู่ภายใต้เงื่อนไขการใช้บริการตามที่ระบุในข้อกำหนดนี้ทั้งหมด - ผู้ใช้งานในระบบ:
ท่านมีสิทธิมอบหมายให้บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ใช้งานในระบบเพื่อเข้าจัดการระบบภายในคลินิกของท่านได้ อย่างไรก็ตาม ท่านจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆ ที่ผู้ใช้งานในระบบได้กระทำลงเสมือนเป็นการกระทำของท่านเอง ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะอยู่ในความรับรู้ของท่านหรือไม่ก็ตาม บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือการสูญเสียผลประโยชน์ใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้ใช้งานในระบบ - การจัดการผู้ใช้งานในระบบ:
ท่านมีสิทธิเด็ดขาดในการเปลี่ยนแปลง ยกเลิก หรือจำกัดการใช้งานของผู้ใช้งานในระบบได้ตามที่ท่านเห็นสมควร ในกรณีที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้นระหว่างท่านและผู้ใช้งานในระบบ บริษัทจะปฏิบัติตามคำร้องขอหรือคำสั่งของท่านแต่เพียงผู้เดียวในฐานะคู่สัญญา - การดำเนินการตามคำขอ:
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอหรือคำสั่งใดๆ จากบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานในระบบที่ท่านเลือก หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของท่าน ที่มิใช่คู่สัญญากับบริษัทโดยตรง เว้นแต่จะปรากฏว่าท่านได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดแจ้งแก่บริษัทเป็นการเฉพาะ - การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล:
บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้บริการ โดยเราได้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางเทคโนโลยีที่เหมาะสมและทันสมัยมาใช้ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การสูญหาย หรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลโดยมิชอบ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความไม่แน่นอนของเทคโนโลยีและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา บริษัทจึงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างสมบูรณ์ - การอัพเดทและบำรุงรักษาระบบ:
เพื่อให้บริการมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด บริษัทอาจจำเป็นต้องทำการอัพเดทหรือบำรุงรักษาระบบเป็นครั้งคราว ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของบริการชั่วคราว บริษัทจะพยายามดำเนินการดังกล่าวในช่วงเวลาที่มีผลกระทบต่อการใช้งานน้อยที่สุด และจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าหากเป็นการบำรุงรักษาที่วางแผนไว้
3. การสมัคร ต่ออายุ และยกเลิกบริการ
- กระบวนการสมัครใช้บริการ:
การสมัครใช้บริการสามารถทำได้โดยการติดต่อผ่านพนักงานขายที่ได้รับมอบหมายของบริษัท ผู้สนใจใช้บริการจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันในการสมัคร บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการตรวจสอบข้อมูลและปฏิเสธคำขอใช้บริการใดๆ ที่ไม่ผ่านหลักเกณฑ์การประเมินของบริษัท โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุผลให้ทราบ - การต่ออายุบริการ:
ระยะเวลาการใช้บริการเริ่มต้นจะถูกกำหนดไว้ในเอกสารยืนยันการสั่งซื้อ เมื่อใกล้ถึงวันสิ้นสุดสัญญา บริษัทจะทำการแจ้งเตือนการต่ออายุไปยังผู้ใช้บริการล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ผู้ใช้บริการสามารถเลือกต่ออายุบริการได้โดยการชำระค่าบริการตามอัตราที่กำหนด ณ เวลานั้น - การยกเลิกบริการ:
ผู้ใช้บริการมีสิทธิยกเลิกการใช้บริการได้โดยการส่งคำขอยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรมายัง [email protected] การยื่นคำขอดังกล่าวสามารถทำได้ล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนสิ้นสุดระยะเวลาการใช้บริการ โดยการยกเลิกจะมีผลในวันสุดท้ายของระยะเวลาการใช้บริการตามที่ระบุในสัญญา - การยกเลิกก่อนกำหนด:
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีความประสงค์จะยกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนดระยะเวลาการใช้บริการ (การยกเลิกก่อนกำหนด) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนเงินค่าบริการที่ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น - ผลของการยกเลิกบริการ:
เมื่อการยกเลิกบริการมีผล ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลใดๆ ในบัญชีได้อีกต่อไป บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่ยกเลิกบริการ หลังจากนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบออกจากระบบ
4. หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการ
- การรักษาความปลอดภัยของบัญชี:
ผู้ใช้บริการมีหน้าที่เก็บรักษาชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ของตนไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด และต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุดในการป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงบัญชีของตน - ความรับผิดชอบต่อกิจกรรมในบัญชี:
ผู้ใช้บริการจะต้องรับผิดชอบต่อกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายใต้บัญชีของตน ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยผู้ใช้บริการเองหรือบุคคลอื่นที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ได้รับอนุญาตก็ตาม - การแจ้งเหตุการณ์ผิดปกติ:
ในกรณีที่ผู้ใช้บริการสงสัยหรือพบว่ามีการใช้งานบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใช้บริการมีหน้าที่แจ้งให้บริษัททราบโดยทันทีผ่านช่องทางที่กำหนด เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว - การใช้งานอย่างเหมาะสม:
ผู้ใช้บริการต้องใช้บริการของบริษัทอย่างเหมาะสมและถูกกฎหมาย โดยไม่ใช้บริการในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมอันดี - การอัพเดทข้อมูล:
ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้บริษัทสามารถติดต่อและให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ - การปฏิบัติตามกฎหมาย:
ผู้ใช้บริการต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงาม - การสำรองข้อมูล:
แม้ว่าบริษัทจะมีระบบสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ แต่ผู้ใช้บริการควรทำการสำรองข้อมูลสำคัญของตนเองเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย
5. การโอนสิทธิ
- ข้อห้ามในการโอนสิทธิ:
บริษัทไม่อนุญาตให้ผู้ใช้บริการโอนสิทธิและหน้าที่ที่เกิดขึ้นภายใต้สัญญานี้ให้แก่บุคคลอื่นโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทเป็นการเฉพาะ - ผลของการโอนสิทธิโดยไม่ได้รับอนุญาต:
การโอนสิทธิใดๆ ที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดนี้จะถือเป็นโมฆะและไม่มีผลผูกพันบริษัท บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือระงับบริการโดยทันทีหากพบการฝ่าฝืนข้อกำหนดนี้ - การโอนสิทธิโดยบริษัท:
บริษัทสงวนสิทธิ์ในการโอนสิทธิและหน้าที่ของตนภายใต้สัญญานี้ให้แก่บุคคลที่สามได้ โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน การโอนสิทธิดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของผู้ใช้บริการภายใต้สัญญานี้
6. ทรัพย์สินทางปัญญา
- สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท:
บริษัทเป็นเจ้าของหรือผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริการ ซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ และเนื้อหาที่ปรากฏบนเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร ความลับทางการค้า และสิทธิในฐานข้อมูล - ข้อห้ามในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท:
ห้ามมิให้ผู้ใช้บริการหรือบุคคลอื่นใดทำการคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข เผยแพร่ จำหน่าย หรือกระทำการใดๆ ต่อทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทก่อน การฝ่าฝืนข้อกำหนดนี้อาจนำไปสู่การดำเนินคดีทางกฎหมายและการเรียกร้องค่าเสียหาย - การใช้เครื่องหมายการค้า:
ผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้า โลโก้ หรือสัญลักษณ์อื่นใดของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร การใช้เครื่องหมายการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจถือเป็นการละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าของบริษัท - สิทธิในข้อมูลของผู้ใช้บริการ:
ข้อมูลหรือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ใช้บริการนำเข้าสู่ระบบถือเป็นทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการตกลงให้สิทธิแก่บริษัทในการใช้ คัดลอก จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการและพัฒนาคุณภาพของบริการ - การให้ข้อเสนอแนะ:
หากผู้ใช้บริการให้ข้อเสนอแนะ ความคิดเห็น หรือข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับบริการแก่บริษัท ผู้ใช้บริการตกลงให้สิทธิแก่บริษัทในการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือจ่ายค่าตอบแทนใดๆ - การรับรองสิทธิ:
ผู้ใช้บริการรับรองว่าตนมีสิทธิโดยชอบธรรมในการนำเข้า ใช้งาน และเผยแพร่ข้อมูลหรือเนื้อหาใดๆ ที่ตนนำเข้าสู่ระบบของบริษัท และการกระทำดังกล่าวไม่เป็นการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิอื่นใดของบุคคลที่สาม
7. การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล
- นโยบายความเป็นส่วนตัว:
บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ โดยการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ - การรักษาความลับ:
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลลับของผู้ใช้บริการเป็นความลับอย่างเคร่งครัด และจะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่บุคคลที่สาม เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด - มาตรการรักษาความปลอดภัย:
บริษัทจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้บริการจากการเข้าถึง ใช้ เปิดเผย เปลี่ยนแปลง หรือทำลายโดยไม่ได้รับอนุญาต - การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูล:
ในกรณีที่เกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้บริการ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบโดยไม่ชักช้า พร้อมทั้งแจ้งมาตรการเยียวยาที่บริษัทได้ดำเนินการ - การสำรองข้อมูล:
บริษัทจะทำการสำรองข้อมูลของผู้ใช้บริการเป็นประจำทุก 24 ชั่วโมง ย้อนหลัง 7 วัน และเก็บรักษาสำเนาข้อมูลไว้ในระบบที่มีความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม บริษัทแนะนำให้ผู้ใช้บริการทำการสำรองข้อมูลสำคัญด้วยตนเองเป็นประจำเพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัย - การเก็บรักษาข้อมูลหลังการยกเลิกบริการ:
เมื่อมีการยกเลิกบริการ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี หลังจากวันที่ยกเลิกบริการ หลังจากนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบออกจากระบบ ยกเว้นข้อมูลที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาตามที่กฎหมายกำหนด
8. ข้อจำกัดความรับผิด
- การให้บริการตามสภาพที่เป็นอยู่:
บริษัทให้บริการตามสภาพที่เป็นอยู่ โดยไม่รับประกันว่าบริการจะปราศจากข้อบกพร่องหรือจะสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด - ข้อจำกัดความรับผิดในความเสียหาย:
บริษัทจะไม่รับผิดต่อความเสียหายทางตรง ทางอ้อม หรือความเสียหายอื่นใดที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการของผู้ใช้บริการ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การสูญเสียข้อมูล การสูญเสียรายได้ หรือการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ เว้นแต่ความเสียหายดังกล่าวจะเกิดจากความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของบริษัท - การจำกัดจำนวนค่าเสียหาย:
ในกรณีที่บริษัทต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนค่าเสียหายสูงสุดที่บริษัทจะรับผิดชอบจะไม่เกินจำนวนค่าบริการที่ผู้ใช้บริการได้ชำระให้แก่บริษัทในช่วง 12 เดือนก่อนเกิดความเสียหาย - เหตุสุดวิสัย:
บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความล่าช้าหรือการไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ อันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ภัยธรรมชาติ การก่อการร้าย การจลาจล สงคราม การนัดหยุดงาน หรือเหตุขัดข้องของระบบโทรคมนาคมที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท - การพึ่งพาข้อมูลและคำแนะนำ:
ข้อมูลและคำแนะนำที่ปรากฏในระบบหรือที่ให้โดยพนักงานของบริษัทเป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ผู้ใช้บริการควรใช้วิจารณญาณของตนเองในการตัดสินใจใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือการปฏิบัติงาน บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการพึ่งพาข้อมูลหรือคำแนะนำดังกล่าว
9. การแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและเงื่อนไข
- สิทธิในการแก้ไขเพิ่มเติม:
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้ได้ตลอดเวลาตามที่เห็นสมควร โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า - การแจ้งการเปลี่ยนแปลง:
บริษัทจะพยายามแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการผ่านช่องทางที่เหมาะสม เช่น อีเมล หรือการประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท - ผลของการเปลี่ยนแปลง:
การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการจะมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อมีการประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการต่อไปภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงมีผลบังคับใช้ ถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น - สิทธิในการปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง:
หากผู้ใช้บริการไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ผู้ใช้บริการมีสิทธิยกเลิกการใช้บริการได้ โดยแจ้งความประสงค์เป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัทภายใน 30 วันนับจากวันที่มีการประกาศเปลี่ยนแปลง - ผลของการเปลี่ยนแปลง:
การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการจะมีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อมีการประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท การที่ผู้ใช้บริการยังคงใช้บริการต่อไปภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงมีผลบังคับใช้ ถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น - สิทธิในการปฏิเสธการเปลี่ยนแปลง:
หากผู้ใช้บริการไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ ผู้ใช้บริการมีสิทธิยกเลิกการใช้บริการได้ โดยแจ้งความประสงค์เป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัทภายใน 30 วันนับจากวันที่มีการประกาศเปลี่ยนแปลง
10. การระงับข้อพิพาท
- กฎหมายที่ใช้บังคับ:
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการนี้อยู่ภายใต้บังคับและการตีความตามกฎหมายไทย - การเจรจาไกล่เกลี่ย:
ในกรณีที่เกิดข้อพิพาทใดๆ ระหว่างผู้ใช้บริการและบริษัท ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกันโดยสุจริตเพื่อหาข้อยุติร่วมกันก่อนที่จะดำเนินการทางกฎหมาย - อนุญาโตตุลาการ:
หากไม่สามารถหาข้อยุติได้โดยการเจรจาไกล่เกลี่ย ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ ตามกฎของสถาบันอนุญาโตตุลาการ กระทรวงยุติธรรม โดยอนุญาโตตุลาการจะต้องเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ - สถานที่พิจารณาคดี:
ในกรณีที่ต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล ทั้งสองฝ่ายตกลงให้ศาลที่มีเขตอำนาจในกรุงเทพมหานครเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดี
11. การติดต่อและการแจ้งเตือน
-
การติดต่อบริษัท:
ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้:
- อีเมล: [email protected]
- โทรศัพท์: 086 414 4954
- ที่อยู่: เลขที่ 719 อาคารมิ้นททาวเวอร หองเลขที่ 504 ช้ันที่ 5 ถนนพระรามที่ 6 แขวงวังใหม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร - การแจ้งเตือนจากบริษัท:
บริษัทอาจส่งการแจ้งเตือน ประกาศ หรือการสื่อสารอื่นๆ ไปยังผู้ใช้บริการผ่านทางอีเมล ข้อความในระบบ หรือการประกาศบนเว็บไซต์ของบริษัท โดยถือว่าผู้ใช้บริการได้รับทราบการแจ้งเตือนดังกล่าวทันทีที่มีการส่งหรือประกาศ - การเปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อ:
ผู้ใช้บริการมีหน้าที่แจ้งให้บริษัททราบทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ หรือที่อยู่ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ใช้บริการไม่ได้รับการแจ้งเตือนหรือการสื่อสารจากบริษัทเนื่องจากข้อมูลการติดต่อไม่เป็นปัจจุบัน
12. การยอมรับความเสี่ยง
- ความเสี่ยงในการใช้อินเทอร์เน็ต:
ผู้ใช้บริการยอมรับว่าการใช้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เช่น การหยุดชะงักของการสื่อสาร ความล่าช้าในการส่งข้อมูล หรือการโจมตีทางไซเบอร์ ผู้ใช้บริการตกลงที่จะรับความเสี่ยงดังกล่าวด้วยตนเอง - การใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย:
ผู้ใช้บริการตกลงที่จะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมในการป้องกันการเข้าถึงบัญชีของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น การใช้รหัสผ่านที่ซับซ้อน การเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ และการไม่เปิดเผยข้อมูลการเข้าสู่ระบบให้กับบุคคลอื่น - การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล:
ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ป้อนเข้าสู่ระบบและข้อมูลที่แสดงในระบบอย่างสม่ำเสมอ หากพบข้อผิดพลาดหรือความไม่ถูกต้อง ผู้ใช้บริการต้องแจ้งให้บริษัททราบโดยทันที
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 01/07/2024