หนึ่งปัญหาที่หลายคลินิกต้องเจอ นั่นก็คือ การบริหารจัดการสต็อกยา และการจัดหาตัวแทนจำหน่ายยาจากร้านขายยาใหญ่ที่ไว้ใจได้ ได้ยาคุณภาพในราคาที่คุ้มค่าต่อการสต็อกยา เพราะเลือกซัพพลายเออร์ผิด ชีวิตคลินิกอาจเปลี่ยนได้ เราจะมาดูวิธีเลือกบริษัทยาในประเทศไทย และตัวแทนจำหน่าย ยาความงามที่น่าเชื่อถือ และร้านขายยาขนาดใหญ่มีที่ไหนบ้าง เพื่อยกระดับคุณภาพคลังยาของคลินิกความงามให้เป็นไปตามมาตรฐานได้
เช็กลิสต์การเลือกตัวแทนจำหน่ายยา ต้องดูอะไรบ้าง

การเลือกตัวแทนจำหน่ายยาไม่ได้จบแค่เรื่องราคาถูกที่คุ้มค่าเท่านั้น แต่คือการเลือกพันธมิตรระยะยาวของคลินิก เพราะซัพพลายเออร์ที่ดี จะช่วยให้เจ้าของคลินิกหมดกังวลเรื่องคุณภาพยา ยามาส่งได้ตามรอบสต็อกยาของเรา ไม่ขาดช่วง และลดความเสี่ยงทางกฎหมายของยาที่ไม่ได้มาตรฐานไปพร้อมกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
คุณภาพของผลิตภัณฑ์ บริษัทยาในประเทศไทย

สิ่งแรกที่ต้องเช็กคือมาตรฐาน ตัวแทนจำหน่ายยาว่าได้จำหน่ายยาที่ผ่าน อย. ถูกต้อง มีแหล่งที่มาชัดเจนหรือไม่ เพราะปัจจุบันตลาดตัวแทนจำหน่าย ยาความงาม และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์มีการเติบโตสูงมาก ทำให้มีทั้งของแท้และของเทาแฝงอยู่ เราจึงควรเลือกซัพพลายเออร์ที่เป็นบริษัท ขายยา ถูกกฎหมาย มีเอกสารครบ มีใบอนุญาต ขายส่งยา และสามารถตรวจสอบประวัติย้อนหลังได้ ที่สำคัญคือควรมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นยาใช้ทั่วไป เวชสำอาง ยาฉีด หรือเวชภัณฑ์เฉพาะทาง เพื่อให้คลินิกความงามไม่ต้องเปลี่ยนเจ้าไปมาให้วุ่นวาย นอกจากนี้การได้ร่วมงานกับร้านขายยาใหญ่ หรือร้านขายยาขนาดใหญ่ที่มีการควบคุมคุณภาพระดับองค์กร มักมีระบบจัดการที่ได้มาตรฐานกว่า ลดความเสี่ยงในการได้รับสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ
ความรวดเร็วในการจัดส่งจากร้านขายยาใหญ่

ต่อให้ราคาดีแค่ไหน แต่ถ้ายาส่งช้าทุกอย่างก็จะยุ่งยากต่อการจัดการสต็อกยาคลินิก โดยเฉพาะคลินิกความงามที่มีเคสต่อเนื่อง หรือคลินิกเฉพาะทาง การมีซัพพลายเออร์ เวชภัณฑ์ คลินิกที่จัดส่งเร็ว ตรงเวลา คือหัวใจของการสายพานการจัดส่งยาที่ดี ซัพพลายเออร์ที่เป็นมืออาชีพจะตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ เช่น จัดส่งทุกวัน หรือมีรอบส่งแน่นอน มีระบบติดตามสถานะได้ และมีเจ้าหน้าที่ประสานงานเฉพาะสำหรับคลินิกความงาม เพื่อให้การจัดส่งยาราบรื่น
นโยบายการคืน หรือเปลี่ยนยา
ไม่มีคลินิกไหนอยากสั่งยามาแล้วต้องทิ้งเพราะใกล้หมดอายุ ดังนั้นควรตรวจสอบนโยบาย เงื่อนไขการคืนหรือเปลี่ยนสินค้าของตัวแทนจำหน่ายยา ว่ามีความยืดหยุ่นแค่ไหน ซัพพลายเออร์ที่มีมาตรฐาน ตัวแทนจำหน่ายยา มักมีนโยบายรองรับในกรณียาใกล้หมดอายุ ยาเสียหายจากการขนส่ง หรือสินค้ามีปัญหา ทำให้คลินิกเราบริหารความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องแบกรับความเสียหายฝ่ายเดียว
บริการเสริมที่ควรมีจากบริษัทยาในประเทศไทย

อีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญของบริษัทยาในประเทศไทยที่ดี คือบริการเสริม เช่น การให้ข้อมูลสินค้า การอบรมความรู้กับแพทย์และบุคลากรคลินิก หรือการมีทีม Medical Rep ที่เข้าใจสินค้าอย่างแท้จริง คอยให้คำแนะนำหรืออัปเดตข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับยาหรือเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จัดจำหน่าย บริการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้คลินิก ให้ทีมงานเข้าใจการใช้ยาอย่างถูกต้อง ลดความผิดพลาด และยกระดับมาตรฐานการรักษาโดยรวม ส่งผลดีต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดกับลูกค้าด้วย
การแข่งขันด้านราคา
แน่นอนว่าเรื่องราคายังเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ต้องไม่เลือกแค่เพราะราคาดีเท่านั้น เพราะบางครั้ง แหล่ง ซื้อยา ถูกอาจแลกมาด้วยความเสี่ยงด้านคุณภาพ คลินิกควรมองราคาในมิติระยะยาว เช่น ความคุ้มค่าต่อคุณภาพ ความสม่ำเสมอของสินค้า การลดต้นทุนแฝง เช่น เวลาที่ต้องเสียไปแก้ปัญหา หรือการเสียความเชื่อมั่นจากคนไข้ ซึ่งมีสำคัญกับคลินิกของเรามาก ๆ หากลูกค้าเกิดความเสียหายจากยาหรือเวชภัณฑ์ในคลินิกของเรา
ดีลกับตัวแทนจำหน่ายยาอย่างไรให้ลงตัว

ถ้าอยากปิดดีลให้ลงตัวกับตัวแทนจำหน่ายยา อาจต้องเริ่มจากเลือกตัวแทนที่มีใบอนุญาตขายส่งยาถูกต้องตามกฎหมาย (เช่น ข.ย.4) และเป็นผู้นำเข้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. พร้อมตรวจสอบมาตรฐานการจัดเก็บและกระจายสินค้า (GSP/GDP) โดยคลินิกความงามต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการซื้อ เก็บ และเบิกจ่ายยา เช่น จัดทำบันทึกสต็อก การเก็บรักษายาควบคุมอุณหภูมิ และการเบิกจ่าย นอกจากนี้ควรมีเอกสารที่เกี่ยวข้องของยาทุกล็อต และมีนโยบายคืนสินค้า นอกจากนี้ เราควรเทียบผู้จำหน่ายหลายราย เช่น SOE Medical, Merz Aesthetics Thailand, Medtech Medical, NNF International, Aestec Pharma, APA Aesthetic Global, AME, Edencolors และ Mediaestics โดยดูทั้งความน่าเชื่อถือ บริการหลังการขาย และเงื่อนไขเครดิต เมื่อครบทั้งหมดนี้ เราอาจมั่นใจได้ว่าเป็นดีลที่ปลอดภัย และคุ้มค่าที่สุดสำหรับคลินิกความงามของเรา
ยกระดับการบริหารคลังยาแบบมือโปร ด้วย ProClinic

ต่อให้เรามีลิสต์ร้านขายยาขนาดใหญ่ หรือตัวแทนจำหน่ายยาที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าระบบหลังบ้านมีการจัดการ คลังยา คลินิกไม่ดี ทุกอย่างก็จะกลับมาวุ่นวายเหมือนเดิม ปัญหาที่พบบ่อยในหลายคลินิกความงามคือไม่รู้สต็อกจริง ยาหมดโดยไม่รู้ตัว สั่งยามาซ้ำซ้อน หรือบางตัวยาค้างสต็อกจนหมดอายุ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นต้นทุนที่กระทบต่อกำไรได้ ตรงนี้เองที่ ProClinic ช่วยได้ เพราะเป็นระบบคลินิกที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยการจัดการ คลังยา คลินิก อย่างแม่นยำ ครบวงจร ใช้งานง่าย และรองรับการพิมพ์ฉลากยาได้ด้วย ข้อดีคือระบบสามารถติดตามจำนวนยาแบบเรียลไทม์ แสดงสถานะว่ายาตัวไหนใกล้หมด หรือใกล้หมดอายุ ทำให้เราวางแผนสั่งซื้อจากซัพพลายเออร์ เวชภัณฑ์ คลินิก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกครั้งที่มีการใช้ยา ระบบจะตัดสต็อกได้เลย ไม่ต้องจัดการสต็อกยาแบบเดิม ๆ อีกต่อไป

สำหรับการยกระดับคลังยาในคลินิกความงาม เราควรต้องมีทั้งพันธมิตรที่ดีในฝั่งตัวแทนจำหน่ายยา ลิสต์บริษัทยาในประเทศไทยที่น่าเชื่อถือและดีลได้ สิ่งที่ต้องมีต่อคือระบบจัดการสต็อกยาที่แม่นยำ ซึ่ง ProClinic ที่ช่วยให้สะดวกทุกขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้เราวางแผนสั่งซื้อในระยะยาว ลดความผิดพลาด ประหยัดเวลา เพิ่มกำไร และสร้างความมั่นใจให้คุณบริหารคลินิกได้มืออาชีพมากขึ้น เหมาะสำหรับคลินิกที่อยากเติบโตอย่างมีระบบ ยอดขายปัง สต็อกยาไม่กระทบต้นทุนหรือกำไร ที่เป็นโอกาสเติบโตของคลินิกความงามได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตัวแทนจำหน่ายยา
คลินิกต้องมีเภสัชกรในการสั่งซื้อยาหรือไม่
ถ้าคลินิกต้องการขายหรือจ่ายยาให้คนไข้ตามกฎหมาย ต้องมีเภสัชกรที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพประจำอยู่ เพราะกฎหมายกำหนดให้ร้านขายยาหรือคลินิกที่จำหน่ายยา ต้องมีเภสัชกรควบคุมดูแลการจ่ายยาอย่างถูกต้องตามระเบียบ
ยาที่หมดอายุแล้วสามารถส่งคืนตัวแทนจำหน่ายได้หรือไม่
โดยทั่วไปยาที่หมดอายุแล้วและไม่ผ่านมาตรฐานไม่ควรถูกจ่ายต่อ ถ้าตัวแทนจำหน่ายมีนโยบายรับคืนหรือเปลี่ยนยา (recall / return) และสินค้าอยู่ในเงื่อนไขที่รับได้ ก็สามารถคืนได้ แต่หากเป็นการนำเข้าหรือยาผู้ป่วยที่ใช้แล้ว มักไม่สามารถคืนได้ตามข้อกฎหมายของการนำเข้าและจำหน่ายยา
ใบกำกับยา (Invoice) มีความสำคัญอย่างไรในการตรวจสอบของ อย.
ใบกำกับยา (Invoice) เป็นเอกสารทางกฎหมายที่ระบุรายการยาทั้งหมดที่จำหน่ายและนำเข้า และเป็นหลักฐานสำคัญให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการตรวจสอบที่มาของยา การจดทะเบียน การนำเข้า และความถูกต้องตามข้อกฎหมาย หากไม่มีใบกำกับที่ถูกต้อง ยาอาจถือว่าเป็นยาผิดกฎหมายได้
คลินิกสามารถนำเข้ายาจากต่างประเทศเองได้โดยตรงหรือไม่
โดยทั่วไปการนำเข้ายาต้องได้รับอนุญาตจาก อย. และต้องมี License per Invoice (LPI) ทุกครั้งที่นำเข้ายา รวมถึงต้องยื่นขออนุญาตตามกฎหมายยา ไม่ใช่เรื่องที่คลินิกทั่วไปสามารถนำเข้าเองได้โดยตรงโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ ซึ่งถ้านำเข้ายาโดยไม่มีใบอนุญาตจะถือว่าผิดกฎหมาย
Copyright © 2025 Proclinic Group Co., Ltd. All rights reserved.
Published on : December 21, 2025