วิธีเลือกโปรแกรมบริหารคลินิกที่เหมาะกับขนาดคลินิกของคุณ

วิธีเลือกโปรแกรมบริหารคลินิกที่เหมาะกับขนาดคลินิกของคุณ

8 มกราคม 2568 เทคนิคบริหารคลินิก 35เข้าชม

        ลองนึกภาพคลินิกที่ยังคงใช้ระบบเอกสารแบบเดิม ๆ ข้อมูลคนไข้กระจัดกระจาย การค้นหาประวัติทำได้ยากลำบาก เกิดความล่าช้าในการบริการ และเสี่ยงต่อการสูญหายของข้อมูล ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยโปรแกรมบริหารคลินิก แต่โปรแกรมบริหารคลินิกเองก็มีมากมายหลายแบบ การเลือกโปรแกรมที่ "ใช่" และ "เหมาะสม" กับขนาดและความต้องการของคลินิกจึงเป็นเรื่องสำคัญ เปรียบเสมือนการเลือก "หัวใจ" ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน

        บทความนี้จะช่วยคุณ "ไขความลับ" ในการเลือกโปรแกรมบริหารคลินิกที่เหมาะสมกับขนาดคลินิก พร้อมเผยปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และนำธุรกิจคลินิกของคุณก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มศักยภาพ

เลือกโปรแกรมบริหารคลินิกให้ "ใช่" ตรงใจ ตรงประเภทธุรกิจ!

        การเลือกโปรแกรมบริหารคลินิก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดเพียงอย่างเดียว แต่ "ประเภท" ของคลินิกก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะแต่ละประเภทมีความต้องการเฉพาะทางที่แตกต่างกัน ลองนึกภาพคลินิกทันตกรรมที่เน้นการจัดการอุปกรณ์ กับคลินิกเสริมความงามที่เน้นการจัดการคอร์ส แน่นอนว่าโปรแกรมที่เหมาะสมย่อมแตกต่างกัน

มาดูกันว่า "ประเภทคลินิก" มีผลต่อการเลือกโปรแกรมบริหารคลินิกอย่างไร?

คลินิกทั่วไป/เวชกรรม

        ต้องการระบบจัดการข้อมูลคนไข้, ระบบนัดหมาย, ระบบบันทึกรายรับ-รายจ่าย, ระบบจัดการยา, ระบบ EMR (Electronic Medical Record) ซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาจะมีระบบเชื่อมต่อกับเครื่องมือแพทย์, ระบบส่งต่อข้อมูลคนไข้, ระบบเตือนการรับประทานยา, ระบบ Telemedicine

คลินิกทันตกรรม

        จำเป็นสำหรับระบบจัดการแผนผังฟัน, ระบบบันทึกประวัติการรักษาทางทันตกรรม, ระบบจัดการอุปกรณ์และวัสดุ, ระบบ X-ray ฟีเจอร์ที่ต้องมีคือระบบคำนวณค่าใช้จ่าย, ระบบนัดหมายออนไลน์, ระบบเตือนการนัดหมาย

คลินิกเฉพาะทาง (เช่น ตา หู คอ จมูก ผิวหนัง กายภาพบำบัด)

        ต้องการระบบที่รองรับการบันทึกข้อมูลเฉพาะทาง, ระบบจัดการเครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะทาง, ระบบรายงานเฉพาะทาง ฉะนั้นระบบเชื่อมต่อกับเครื่องมือเฉพาะทาง, ระบบวิเคราะห์ข้อมูล, ระบบ Telemedicine สำคัญมาก ๆ 

คลินิกเสริมความงาม 

        ส่วนมากแล้วต้องการระบบจัดการข้อมูลคนไข้, ระบบนัดหมาย, ระบบจัดการคอร์สความงาม, ระบบจัดการโปรโมชั่น, ระบบสมาชิก, ระบบบันทึกภาพ Before & After, ระบบ POS ฟีเจอร์ที่ควรพิจารณาก็จะเป็นระบบ CRM, ระบบการตลาดออนไลน์, ระบบวิเคราะห์ข้อมูล, ระบบแจ้งเตือน

        ซึ่งตรงนี้ ProClinic ตอบโจทย์คลินิกความงามมาก ๆ  เพราะถูกออกแบบมาเพื่อธุรกิจความงามโดยเฉพาะ ด้วยฟีเจอร์ครบครันที่ช่วยจัดการทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการคอร์ส สามารถบันทึกข้อมูลคอร์ส ติดตามสถานะ จัดการโปรโมชั่น ทั้งยังสามารถสร้างโปรแกรมสมาชิก จัดการสิทธิประโยชน์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า จนไปถึงวิเคราะห์ข้อมูล วางแผนกลยุทธ์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้การบริหารคลินิกความงามเป็นเรื่องง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพ

เจาะลึกฟีเจอร์ เลือกโปรแกรมบริหารคลินิกให้ตรงใจ เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ

        นอกจากขนาดและประเภทของคลินิกแล้ว "ฟีเจอร์การใช้งาน" ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพราะฟีเจอร์ที่หลากหลาย และตอบโจทย์ความต้องการ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดข้อผิดพลาด และยกระดับการบริการของคลินิกได้

แล้วฟีเจอร์แบบไหนล่ะ? ถึงจะเหมาะกับคลินิกของคุณ มาดูกัน

1. ฟีเจอร์พื้นฐาน

 ระบบประวัติการรักษาระบบประวัติการรักษาคนไข้

        แน่นอนว่าต้องมีระบบจัดการข้อมูลคนไข้ ให้สามารถจัดเก็บประวัติคนไข้ ประวัติการรักษา ข้อมูลการติดต่อ ประวัติการแพ้ยาอย่างเป็นระบบ รวมถึงสามารถจัดการตารางนัดหมาย แจ้งเตือนนัดหมาย ลดปัญหาการลืม หรือการนัดหมายซ้ำซ้อน จนไปถึงสามารถบันทึกรายการ รายรับ-รายจ่าย ประจำวัน สรุปยอดขาย ช่วยควบคุมการเงินของคลินิก

2. ฟีเจอร์เสริม 

ระบบสต๊อกสินค้าระบบสต๊อกสินค้า

        หลาย ๆ คลินิกต้องการระบบจัดการยาและเวชภัณฑ์ เพราะสามารถควบคุมสต๊อก จัดการคลังยา ระบบสั่งซื้อ ช่วยลดปัญหาสินค้าขาด หรือเกินได้ ไปจนถึงระบบบัญชี ออกใบเสร็จ ใบกำกับภาษี เชื่อมต่อกับธนาคาร ช่วยให้การจัดการด้านการเงินเป็นเรื่องง่าย

        นอกจากนี้ หากมีระบบ EMR (Electronic Medical Record) ให้บันทึกข้อมูลทางการแพทย์ ประวัติการรักษา ผลตรวจ ในรูปแบบดิจิทัล ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลรวดเร็ว และปลอดภัยจะดีมาก ไปจนถึงสร้างรายงานต่าง ๆ เช่น รายงานยอดขาย รายงานจำนวนคนไข้ รายงานการใช้ยา ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และวางแผนธุรกิจได้

3. ฟีเจอร์พิเศษ

ระบบนัดหมายคนไข้ระบบนัดหมายคนไข้

        คนไข้สามารถนัดหมายผ่านเว็บไซต์ เพิ่มความสะดวกสบายได้เลย มีระบบ CRM  จัดการข้อมูลลูกค้า ประวัติการติดต่อ สร้างความสัมพันธ์ และรักษาฐานลูกค้า ที่สำคัญคือต้องมีระบบเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ เครื่องอ่านบาร์โค้ด เครื่องวัดความดัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

        แล้วจะเลือกฟีเจอร์อย่างไรให้เหมาะสม? อันดับแรกให้ดูที่ขนาดของคลินิกก่อน หากเป็นคลินิกขนาดเล็ก อาจต้องการแค่ฟีเจอร์พื้นฐาน ส่วนคลินิกขนาดใหญ่ อาจต้องการฟีเจอร์เสริม หรือพิเศษ เพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อน รวมไปถึงแต่ละประเภทของคลินิก มีความต้องการฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน เช่น คลินิกทันตกรรม ต้องการระบบจัดการแผนผังฟัน คลินิกเสริมความงาม ต้องการระบบจัดการคอร์ส 

        อย่าลืมว่า ฟีเจอร์ยิ่งเยอะ ราคายิ่งสูง ควรเลือกฟีเจอร์ที่จำเป็น และคุ้มค่ากับงบประมาณ ฉะนั้นพิจารณาจากปัญหา หรือความต้องการเฉพาะของคลินิก เช่น ต้องการระบบแจ้งเตือน ระบบวิเคราะห์ข้อมูล หรือระบบเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ

ใช้งานง่าย ใคร ๆ ก็ใช้ได้ เลือกโปรแกรมบริหารคลินิกที่ "ไม่ยาก" จนเกินไป

        การเลือกโปรแกรมบริหารคลินิก นอกจากจะดูที่ฟีเจอร์ ขนาด และประเภทของคลินิกแล้ว "ความยากง่ายในการใช้งาน" ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อต้องคำนึงถึง "ผู้ใช้งาน" ซึ่งก็คือบุคลากรภายในคลินิกนั่นเอง ลองนึกภาพคุณลงทุนซื้อโปรแกรมที่มีฟีเจอร์ครบครัน แต่กลับใช้งานยาก ซับซ้อน จนพนักงานไม่ยอมใช้ หรือใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สุดท้าย โปรแกรมที่แสนแพงก็กลายเป็น "แค่ decoration" ประดับคลินิก!

        แล้วความยากง่าย ส่งผลอย่างไร? อันดับแรกเลยโปรแกรมที่ใช้งานง่าย จะช่วยให้พนักงานเรียนรู้ และใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ลดเวลาในการฝึกอบรม เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดข้อผิดพลาด และจำไว้เสมอเลยว่าไม่มีใครชอบอะไรที่ยุ่งยาก โปรแกรมที่ใช้งานง่าย จะช่วยลดความเครียด และเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน ส่งผลต่อบรรยากาศ และประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

        นอกจากนี้ โปรแกรมที่ใช้งานง่าย จะช่วยลดต้นทุน และเวลาในการฝึกอบรมพนักงาน หากโปรแกรมใช้งานยาก พนักงานอาจ "ต่อต้าน" ไม่ยอมใช้ หรือใช้แบบขอไปที ทำให้ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด

        แล้วโปรแกรมแบบไหนล่ะ ถึงจะเรียกว่า "ใช้งานง่าย" ให้ดูที่หน้าตาโปรแกรม เมนู และไอคอน ควรออกแบบมาให้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน มองหาโปรแกรมที่มี "User-friendly design" ตัวเมนู คำสั่ง และคู่มือ ควรเป็นภาษาไทย เพื่อลดอุปสรรคในการใช้งาน ควรมีคู่มือการใช้งาน วิดีโอสอน หรือทีมงาน คอยให้ความช่วยเหลือ เมื่อเกิดปัญหา จนไปถึงรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน

        เราแนะนำเพิ่มเติมว่า หลาย ๆ โปรแกรมมีช่วงทดลองใช้ฟรี ให้พนักงานทดลองใช้ และประเมินความยากง่ายก่อน  ศึกษาความคิดเห็น และประสบการณ์ จากผู้ที่ใช้งานจริง อย่าลืมสอบถามผู้ให้บริการ เกี่ยวกับการใช้งาน การฝึกอบรม และการสนับสนุน

คุ้มค่า คุ้มราคา เลือกโปรแกรมบริหารคลินิกที่ตอบโจทย์ เพิ่มกำไรให้ธุรกิจ

        การเลือกโปรแกรมบริหารคลินิก "ความคุ้มค่า" เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะการลงทุนกับโปรแกรม เปรียบเสมือนการลงทุนเพื่ออนาคตของธุรกิจ ดังนั้น นอกจากจะดูที่ฟีเจอร์ ขนาด ประเภท และความยากง่ายแล้ว ต้องประเมินด้วยว่าโปรแกรมนั้น "คุ้มค่า" กับเงินที่เสียไปหรือไม่

        ความคุ้มค่า พิจารณาจากอะไร? ลองเปรียบเทียบราคา ค่าใช้จ่ายรายเดือน/รายปี ค่าติดตั้ง ค่าบำรุงรักษา กับฟีเจอร์ที่ได้รับ และงบประมาณของคลินิก รวมไปถึงฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ ใช้งานได้จริง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างรายได้ ถือว่าคุ้มค่า

        และตัวโปรแกรมช่วยให้ลดข้อผิดพลาด เพิ่มความพึงพอใจของคนไข้ เพิ่มยอดขาย รักษาฐานลูกค้าได้หรือไม่ หรือมีทีมงานสนับสนุนการอบรม การแก้ไขปัญหาที่ช่วยให้ใช้งานโปรแกรมได้เต็มประสิทธิภาพไหม 

        เราอยากแนะนำ ProClinic เพราะโปรแกรมตัวนี้ไม่ใช่แค่โปรแกรมบริหารจัดการ แต่เป็นเครื่องมือ "สร้างยอดขาย" และ "รักษาฐานลูกค้า" ด้วยฟีเจอร์ Marketing ที่โดดเด่น เช่นจัดการข้อมูลลูกค้า ประวัติการรักษา พฤติกรรมการใช้บริการ เพื่อนำมาวิเคราะห์ และวางแผนการตลาด ส่งเสริมการขาย ที่ตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่ม มีระบบนัดหมายออนไลน์เพิ่มความสะดวก และโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า

        มีการแจ้งเตือนนัดหมาย โปรโมชั่น วันเกิด กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ สามารถสร้างโปรแกรมสมาชิก มอบสิทธิพิเศษ รักษาฐานลูกค้า และมีวิเคราะห์ข้อมูล ติดตามผลลัพธ์ วัดประสิทธิภาพของแคมเปญ ปรับกลยุทธ์ให้ตรงจุด

        ProClinic ช่วยให้คลินิกเพิ่มยอดขาย ด้วยระบบ Marketing ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ และกระตุ้นยอดขาย ทั้งยังสามารถรักษาฐานลูกค้า ด้วยระบบ CRM และ Loyalty Program ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ และรักษาลูกค้าเก่า ลดค่าใช้จ่ายในการทำ Marketing แบบเดิม ๆ

หลังการขายก็สำคัญ เลือกโปรแกรมบริหารคลินิกที่พร้อมดูแล ไม่ทอดทิ้ง

        หลายคนอาจมองข้าม "บริการหลังการขาย" เมื่อเลือกโปรแกรมบริหารคลินิก แต่จริง ๆ แล้วนี่คือปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยให้การใช้งานโปรแกรมราบรื่น และเกิดประโยชน์สูงสุด เพราะไม่ว่าโปรแกรมจะดีแค่ไหน ย่อมมีโอกาสเกิดปัญหา หรือข้อสงสัยขึ้นได้เสมอ

        เพราะเมื่อเกิดปัญหา เช่น ระบบขัดข้อง ข้อมูลสูญหาย การมีทีมงานคอยช่วยเหลือ จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ลดผลกระทบต่อการดำเนินงานของคลินิก ตัวทีมงาน จะคอยให้คำแนะนำ การใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ การอัปเดต ช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากโปรแกรมได้อย่างเต็มที่

        ไปจนถึงปัญหาทางเทคนิค หรือข้อผิดพลาดในการใช้งาน อาจทำให้ข้อมูลสูญหาย หรือเกิดความเสียหาย การมีทีมงานคอยสนับสนุน จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ สุดท้ายการรู้ว่ามีทีมงานคอยช่วยเหลือ จะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจ และอุ่นใจในการใช้งานโปรแกรม

        แล้วบริการหลังการขาย แบบไหนที่ควรมี? อันดับแรกควรมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย เช่น โทรศัพท์ อีเมล แชท Line เพื่อความสะดวกในการติดต่อ ทีมงานที่เชี่ยวชาญ มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ ในการแก้ไขปัญหา และให้คำแนะนำ สามารถแก้ไขปัญหา และตอบคำถาม อย่างรวดเร็ว ทันเวลา มีการอบรมการใช้งานโปรแกรม ให้กับบุคลากร มีคู่มือที่เข้าใจง่าย ครอบคลุม และอัปเดต และหากเป็นไปได้ ควรมีบริการ On-site support (สำหรับบางโปรแกรม) มีทีมงาน เข้าไปช่วยเหลือ ถึงคลินิก

        "บริการหลังการขาย" เป็นเหมือน "หลักประกัน" ที่ช่วยให้คุณมั่นใจว่า จะได้รับการดูแล และสนับสนุน ตลอดการใช้งานโปรแกรม อย่าลืมพิจารณาปัจจัยนี้ ควบคู่ไปกับปัจจัยอื่นๆ เพื่อเลือกโปรแกรมบริหารคลินิก ที่เหมาะสม และตอบโจทย์ธุรกิจของคุณอย่างแท้จริง 

        อย่าปล่อยให้ "ระบบเดิม ๆ" ฉุดรั้งศักยภาพของคลินิก ถึงเวลาแล้วที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ๆ ด้วย "โปรแกรมบริหารคลินิก" ที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เลือก Proclinic "ตัวจริง" ด้านการบริหารคลินิก ที่พร้อมผลักดันธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทดลองใช้ฟรีวันนี้ แล้วสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ที่เหนือกว่า