ในโลกของธุรกิจคลินิกความงามที่มีการแข่งขันสูง ความแม่นยำในการรักษาและการให้บริการแบบเฉพาะบุคคลกลายเป็นหัวใจสำคัญที่สร้างความแตกต่าง และสร้างผลลัพธ์สุดประทับใจ การบันทึกหัตถการที่เคยอาศัยเพียงการวาดมือบนแผ่นกระดาษหรือโน้ตธรรมดา อาจมีข้อจำกัดทั้งด้านความไม่ชัดเจน ขาดความเป็นมาตรฐาน และไม่สามารถติดตามผลย้อนหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลินิกความงามยุคปัจจุบัน จึงหันมาใช้ Face Chart หรือแผนภาพใบหน้าดิจิทัล ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คลินิกสามารถบันทึกตำแหน่งการทำหัตถการบนใบหน้าคนไข้ได้อย่างละเอียด แม่นยำ และเป็นระบบขึ้น โดยเฉพาะกับหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดสูง อย่างการฉีดโบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, Meso fat, Lifting หรือหัตถการที่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจำเป็นต้องวางแผนการรักษาอย่างรอบคอบ
ข้อดีของ Face Chart ไม่เพียงแค่ทำให้ทีมแพทย์สามารถวาดและจดบันทึกตำแหน่งการรักษาได้ง่ายขึ้นผ่านหน้าจอ i-Pad หรือแท็ปเลตเท่านั้น แต่ยังสามารถแนบข้อมูลนี้ในระบบเวชระเบียนโดยอัตโนมัติได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับมาตรฐานของคลินิกความงามได้อย่างแท้จริง เราจะมาดูกันว่าระบบ Face Chart คืออะไร ? สำหรับคนที่ยังลังเลว่าควรใช้ดีไหม ใช้งานง่ายกว่าจริงหรือเปล่า และมีฟีเจอร์สำคัญอะไรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์การให้บริการได้อีกบ้าง
Face Chart คืออะไร ?
Face Chart คือ แผนภาพใบหน้ามนุษย์แบบดิจิทัล ที่ใช้เป็นเครื่องมือบันทึกตำแหน่งหัตถการในคลินิกความงามและเวชกรรมเฉพาะทาง โดยแพทย์สามารถเขียน วาด หรือจดบันทึกจุดที่ทำการรักษาได้อย่างแม่นยำผ่านอุปกรณ์ เช่น i-Pad หรือแท็ปเลต โดยไม่ต้องวาดลงบนกระดาษแบบเดิม ๆ ที่อาจจะละเอียดน้อยกว่า และต้องจัดเก็บเป็นแฟ้มเอกสาร เวลาจะหาข้อมูลย้อนหลังอาจต้องใช้เวลาเปิดหา และอาจมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลจากลายมือแพทย์ หรือการจัดเก็บเอกสารไม่ดีได้
โดย Face Chart จะช่วยให้แพทย์สามารถมองภาพรวมของใบหน้าคนไข้ในมุมต่าง ๆ ทั้งด้านหน้า ซ้าย ขวา และด้านเฉียง พร้อมทั้งบันทึกตำแหน่งของหัตถการได้ในแบบเรียลไทม์ เช่น ระบบบันทึกจุดฉีด โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, Meso fat หรือการรักษาผิวต่าง ๆ พร้อมระบุชนิดของยา ปริมาณ และเทคนิคที่ใช้ได้อย่างละเอียด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกแนบเข้าสู่เวชระเบียนของผู้ป่วยโดยอัตโนมัติ สามารถดึงกลับมาดูย้อนหลังเมื่อทำการรักษาซ้ำในครั้งถัดไป
นอกจากความแม่นยำแล้ว ยังช่วยให้เกิดความสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างแพทย์และทีมงานในคลินิก ช่วยลดข้อผิดพลาดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น การจำจุดฉีดผิดในครั้งก่อน หรือการใช้เทคนิคที่ไม่เหมาะสมซ้ำโดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งระบบ Face Chart ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล หรือระบบล็อกอินเฉพาะบุคคล เพื่อรองรับกฎหมาย PDPA ให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าข้อมูลใบประวัติจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย ไม่รั่วไหล และใช้ได้เฉพาะบุคลากรที่มีสิทธิ์เข้าถึงเท่านั้น
ทำไมคลินิกความงามยุคใหม่ต้องใช้ระบบ Face Chart ?
- เพื่อความแม่นยำในการทำหัตถการ โดยเฉพาะหัตถการที่ต้องอิงตำแหน่งทางกายวิภาค
- เพื่อความต่อเนื่องในการรักษา โดยสามารถดูย้อนหลังและเปรียบเทียบผลลัพธ์ได้
- ลดความผิดพลาดและข้อร้องเรียนจากคนไข้ ด้วยหลักฐานการรักษาที่ชัดเจน
- ช่วยเสริมความเป็นมืออาชีพของคลินิก และสร้างความเชื่อมั่นให้คนไข้
- ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างแพทย์ พนักงาน และคนไข้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการใช้งาน Face Chart
การใช้งาน Face Chart ในคลินิกความงามไม่ใช่แค่เรื่องของการบันทึกตำแหน่งหัตถการเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยให้มีความแม่นยำ ปลอดภัย สื่อสารภายในทีมได้ชัดเจน นำไปสู่ผลลัพธ์หัตถการที่แม่นยำ มาดูตัวอย่างการใช้งานในสถานการณ์จริงกัน
1. การฉีดโบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์แพทย์สามารถวาดหรือระบุจุดที่ทำการฉีดบนแผนผังใบหน้าของคนไข้ได้
- ระบุตำแหน่ง "Glabella" (ระหว่างคิ้ว) ที่ฉีด โบท็อกซ์ จำนวนกี่ยูนิต
- วาดจุดบริเวณ "Nasolabial Fold" ที่ฉีด Filler พร้อมชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ใช้
- บันทึกเทคนิคที่ใช้ เช่น Linear Thread หรือ Microdroplet
2. การทำ Meso Fat Face Chart ที่ช่วยระบุจุดฉีดสลายไขมันบริเวณแก้ม ใต้คาง หรือกรอบหน้าได้ละเอียดขึ้น
- ใช้ Stylus หรือ Touch วาดจุดกระจายที่ฉีดบนแผนผังหน้า
- แนบข้อมูลว่าใช้ตัวยาอะไร ฉีดปริมาณเท่าไหร่ เพื่ออ้างอิงในครั้งต่อไป
- เปรียบเทียบการลดของไขมันหลังทำหัตถการครั้งก่อน
3. การทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์เฉพาะจุด เนื่องจากบางท่านมีปัญหาผิวเฉพาะจุด เช่น ฝ้า รอยดำ สิวอักเสบ การใช้ Face Chart จะช่วยระบุตำแหน่งได้
- รอยดำอยู่ตำแหน่งใดของใบหน้า
- บริเวณไหนใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดใดในการรักษา
- ความแรงหรือจำนวนช็อตที่ใช้ในการยิงเลเซอร์แต่ละครั้ง
4. การวางแผนหัตถการร่วมกันในทีมแพทย์ สำหรับคลินิกที่มีแพทย์หลายท่านดูแลผู้ป่วยคนเดียวกันในระยะยาว การบันทึกผ่าน Face Chart
- แพทย์ใหม่สามารถเปิดดูประวัติย้อนหลังได้ชัดเจน
- ลดความผิดพลาดจากการตีความคำอธิบายแบบข้อความ
- ใช้เปรียบเทียบก่อน–หลังเพื่อวางแผนการรักษาเพิ่มเติมได้อย่างแม่นยำ
5. ใช้ประกอบการปรึกษากับคนไข้ Face Chart ยังสามารถนำมาใช้แสดงผลการรักษาก่อน–หลัง กับผู้ป่วยโดยตรง ช่วยเสริมความเข้าใจของคนไข้ได้
- เคยทำจุดไหนแล้ว
- เห็นผลลัพธ์ชัดเจนหรือยัง
- จะวางแผนทำเพิ่มตรงไหนในครั้งถัดไป
ฟีเจอร์ Face Chart ที่แนะนำ
- ภาพใบหน้าหลายมุมมอง
- ด้านหน้า/ด้านข้างซ้าย-ขวา
- เพื่อระบุจุดหัตถการได้ครบทุกมุม
- ระบบวาดจุด/ ส้น ฮไลต์
- ใช้สัญลักษณ์หรือปากกาในการทำเครื่องหมาย
- ระบุจุดฉีด จุดเลเซอร์ หรือจุดแก้ไขเฉพาะจุด
- แนบคำอธิบาย/คอมเมนต์เพิ่มเติม
- ระบุชื่อผลิตภัณฑ์ ปริมาณที่ใช้ หรือเทคนิคที่ใช้ในจุดนั้น
- บันทึกลงในประวัติคนไข้โดยอัตโนมัติ
- Face Chart ควรเชื่อมกับประวัติผู้ป่วย เพื่อดูย้อนหลังได้ง่าย
- รองรับการซูมเข้า-ออก/เลื่อนภาพ
- เพื่อความแม่นยำในการระบุตำแหน่งละเอียด เช่น ฉีดใต้ตา ร่องแก้ม ฯลฯ
- รองรับการใช้งานกับแท็บเล็ต/ ปากกา Stylus
- เพิ่มความแม่นยำในการวาดจุดและเส้น เหมาะกับงานที่ต้องลงรายละเอียด
- เปรียบเทียบภาพก่อน-หลังทำหัตถการ
- ใช้ร่วมกับระบบแนบภาพถ่ายก่อน-หลัง เพื่อดูผลลัพธ์อย่างเป็นระบบ
ใช้งานง่ายบน iPad หรือ PC
- ใช้งานง่ายบน iPad หรือ PC ระบบ Face chart ของ ProClinic รองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์หลากหลาย ทั้งบน iPad หรือแท็ปเล็ต ทำให้แพทย์สามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะอยู่หน้าห้องตรวจหรือห้องหัตถการ
- เขียนหรือวาดตำแหน่งบนใบหน้าได้อย่างอิสระบนจอด้วย Stylus/Touch เสมือนการวาดลงกระดาษจริง รองรับการระบุข้อมูลประกอบ เช่น ชื่อยา ปริมาณ หรือวันนัด โดยการบันทึกผ่าน Face chart จะถูกจัดเก็บร่วมกับประวัติการรักษาผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ สามารถเปิดดูภายหลังได้ทันทีในหน้าเวชระเบียน โดยไม่ต้องแยกจัดเก็บหรือค้นหาแยกจากกัน
- รองรับการดูย้อนหลัง โดยเปรียบเทียบครั้งก่อน–ปัจจุบัน รวมทั้งดูประวัติคนไข้ย้อนหลังจากหลาย ๆ ครั้ง เพื่อวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงหลังการรักษา และวางแผนหัตถการในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปลอดภัยตามมาตรฐาน PDPA พร้อมระบบล็อกอิน ที่ทุกข้อมูลจะได้รับการเข้ารหัสและจัดเก็บภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูง ตรวจสอบประวัติการเข้าถึงและแก้ไขข้อมูลของผู้ใช้งาน และสอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย PDPA อย่างรัดกุม
ใช้ Face Chart กับบริการอะไรได้บ้าง ?
ระบบ Face Chart สามารถใช้งานร่วมกับบริการหลากหลายประเภทในคลินิกความงาม ไม่ว่าจะเป็น
- โบท็อกซ์
- ฟิลเลอร์
- เมโสแฟต (Meso Fat)
- HIFU/RF
- เลเซอร์ (Laser)
- ร้อยไหม
- ทรีตเมนต์เฉพาะจุด
โดยทุกบริการเหล่านี้ล้วนต้องการ Face mapping สำหรับหัตถการที่แม่นยำ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป๊ะตรงตามความคาดหวัง และมาตรฐานการรักษา รวมทั้งยังสามารถติดตามผลได้
จากเดิมที่คลินิกความงามใช้การวาดตำแหน่งหัตถการด้วยมือบนกระดาษ ซึ่งเสี่ยงต่อการผิดพลาดและสูญหาย ปัจจุบันการใช้ระบบ Face Chart หรือโปรแกรม Face Chart ได้เข้ามาช่วยให้การบันทึกเป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น นอกจากความแม่นยำแล้วยังรองรับการดูย้อนหลัง เปรียบเทียบผลลัพธ์ และเก็บเป็นหลักฐานทางการแพทย์อย่างครบถ้วน
อาจเรียกได้ว่า การมีระบบ Face Chart คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คลินิกความงามสามารถบันทึกและติดตามการทำหัตถการได้อย่างมืออาชีพ ปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์การรักษาที่ได้ผลดีจริง ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือบริการอื่น ๆ ที่พร้อมเชื่อมต่อกับระบบเวชระเบียนของคนไข้แบบอัตโนมัติ รองรับ PDPA และมาตรฐานความปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย
Face Chart ใช้กับคลินิกขนาดเล็กได้ไหม ?
สามารถใช้ได้และใช้งานง่าย โดยระบบ Face Chart จากผู้ให้บริการอย่าง ProClinic ถูกออกแบบให้ใช้งานได้ทั้งบน iPad และ PC รองรับ Stylus หรือ Touch ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ซับซ้อน จึงเหมาะกับคลินิกขนาดเล็กที่มีบุคลากรจำกัด
สามารถ Export ข้อมูล Face Chart ได้หรือไม่ ?
Export ได้เป็นไฟล์ภาพ (Image/PDF) ภาพที่วาดลงใน Face Chart พร้อมข้อมูลประกอบสามารถ Export เพื่อแนบในรายงานหรือใช้สำหรับอ้างอิงได้
ระบบ Face Chart รองรับการใช้งานร่วมกับแพทย์หลายคนหรือไม่ ?
- ใช้ร่วมกันได้หลายบัญชีผู้ใช้ (Multi-user Access) แพทย์แต่ละคนสามารถล็อกอินด้วยบัญชีของตัวเอง และใช้งาน Face Chart บนระบบเดียวกันได้
- แยกประวัติชัดเจนในเวชระเบียน ข้อมูลการวาด Face Chart ของแต่ละแพทย์จะถูกบันทึกแยกตามคนไข้ พร้อมชื่อผู้ใช้งานและวันเวลา เพื่อความปลอดภัยและตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย
- รองรับการทำงานแบบทีม แพทย์และทีมพยาบาลสามารถดูภาพ Face Chart ที่บันทึกไว้ได้ร่วมกัน เพื่อการประเมินและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
- ระบบ Log ตรวจสอบการเข้าถึง บันทึกการเข้าใช้งานของแต่ละบัญชี พร้อมรองรับความปลอดภัยตามมาตรฐาน PDPA
ข้อมูล Face Chart เก็บไว้นานแค่ไหน ?
- จัดเก็บแบบระยะยาว (Long-term storage) ข้อมูลจะไม่ถูกลบโดยอัตโนมัติ
- แนบกับเวชระเบียนอย่างถาวร Face Chart จะถูกผูกเข้ากับประวัติคนไข้แต่ละรายในระบบเวชระเบียน
- มีระบบสำรองข้อมูล (Backup) ข้อมูลทั้งหมดรวมถึง Face Chart จะถูกสำรองไว้บนระบบ Cloud หรือ Server
- สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ตามแนวทางที่ปลอดภัย และเคารพสิทธิ์ของคนไข้
Face Chart ปลอดภัยตามกฎหมาย PDPA หรือไม่ ?
- มีการเข้ารหัสข้อมูล (Data Encryption)
- ระบบกำหนดสิทธิ์เข้าถึง (Access Control)
- ระบบบันทึก Log-in การใช้งาน
- รองรับคำขอของผู้ป่วยตาม PDPA
- ระบบมีฟังก์ชันรองรับการจัดการคำขอเหล่านี้อย่างถูกต้อง
Copyright © 2025 Proclinic Group Co., Ltd. All rights reserved.
Published on : May 10, 2025