เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง

เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง

8 พฤษภาคม 2568 เทคนิคบริหารคลินิก 45เข้าชม

การเปิดคลินิกความงามไม่ใช่แค่การมีฝันและแรงบันดาลใจ แต่ยังต้องอาศัยการวางแผนการเงินที่รอบคอบ และการคำนวณงบประมาณที่แม่นยำเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและประสบความสำเร็จในระยะยาว เมื่อคุณตัดสินใจที่จะเป็นเจ้าของคลินิกความงาม ไม่ว่าจะเป็นคลินิกเล็ก ๆ หรือขยายสาขาใหญ่ คุณจะต้องรู้ถึงงบประมาณที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นและการดำเนินการในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่ค่าเช่าที่ดินและการตกแต่งสถานที่ ไปจนถึงการจ้างบุคลากรและการลงทุนในอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดคลินิกความงามอย่างละเอียด พร้อมทั้งแนะนำวิธีการวางแผนงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถเปิดคลินิกได้อย่างมืออาชีพและคุ้มค่ากับการลงทุนที่ลงไป

แชร์งบประมาณในการเปิดคลินิก (แต่ละส่วน)


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


การเปิดคลินิกความงามมีค่าใช้จ่ายหลายด้านที่คุณต้องคำนึงถึง ซึ่งจะต้องมีการแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่าง ๆ เพื่อการวางแผนงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น

1. ค่าใช้จ่ายในการเช่าหรือซื้อสถานที่ เพราะการเลือกสถานที่สำหรับเปิดคลินิกก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจ ค่าที่ดินหรือค่าเช่าในพื้นที่ที่มีศักยภาพเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะในทำเลที่มีการเข้าถึงง่ายและมีกลุ่มเป้าหมายที่แน่นอน โดยค่าเช่าอาจอยู่ที่ตั้งแต่ 20,000 บาทไปจนถึง 200,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลของคลินิก โดยอาจมีค่าเงินดาวน์สูงถึง 20% ของมูลค่าทรัพย์สิน

2. ค่าตกแต่งและออกแบบคลินิก เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการออกแบบคลินิกที่สวยงาม มีสไตล์ที่เข้ากับแบรนด์จะสร้างประสบการณ์แรกที่ดีให้กับลูกค้า ดังนั้นควรมีการลงทุนในวัสดุที่ดูดีและสะอาดตา โดยมีค่าใช้จ่ายแต่ละส่วน ดังนี้

  • ค่าตกแต่ง ราคาการตกแต่งจะขึ้นอยู่กับขนาด และความหรูหรา ซึ่งสามารถเริ่มต้นที่ประมาณ 100,000 บาท หรือมากกว่านั้น
  • เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น เตียงนอน, โต๊ะทำงาน, กระจก, โคมไฟ เป็นต้น รวมถึงของตกแต่งเพิ่มเติม

3. ค่าซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องมือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเปิดคลินิกความงาม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือสำหรับการดูแลผิวหน้า เครื่องเลเซอร์ หรืออุปกรณ์เสริมความงามต่าง ๆ

  • เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ เช่น เครื่องเลเซอร์ เครื่องวิเคราะห์ผิว เครื่องนวดหน้าหรือเครื่องมือสลายไขมัน อาจมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 200,000 บาท ขึ้นไปต่อชิ้น
  • ค่าวัสดุเสริม เช่น ครีม เซรั่ม ยาช่วยในการรักษา หรืออุปกรณ์ใช้ซ้ำ


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


4. ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร โดยบุคลากรในคลินิกความงามต้องมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เช่น แพทย์ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ต้อนรับ โดยการจ้างบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องมีการจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสม

  • เงินเดือนแพทย์/พยาบาล อาจต้องจ่ายเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท - 80,000 บาทต่อเดือน/คน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และระดับความเชี่ยวชาญ และจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ในคลินิก
  • ค่าตอบแทนพนักงาน ซึ่งประกอบไปด้วย พนักงานทั่วไป เช่น เจ้าหน้าที่ต้อนรับ หรือผู้ช่วยแพทย์ อาจต้องจ่ายเงินเดือนประมาณ 15,000 บาท - 30,000 บาทต่อเดือน/คน

5. ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาและการตลาด เพราะการทำการตลาดเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้ โดยเฉพาะในยุคที่การโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งประกอบด้วย

  • ค่าโฆษณาออนไลน์ สำหรับการทำโฆษณาในสื่อออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram หรือ Google Ads เริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาท ต่อเดือน
  • ค่าใช้จ่ายด้านการสร้างแบรนด์ การออกแบบโลโก้ การทำเว็บไซต์ หรือการผลิตสื่อโฆษณาต่าง ๆ อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาท - 200,000 บาท

งบประมาณในการหมุนเวียนที่ต้องมี ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


การมีงบประมาณหมุนเวียนที่เพียงพอในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจจะช่วยให้คลินิกดำเนินการได้อย่างราบรื่น และเจ้าของคลินิกเองก็ต้องกังวลในเรื่องของการลงทุน แต่ต้องบริหารให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างที่คลินิกยังไม่ได้รับรายได้ มาดูกันว่า เงินหมุนเวียนที่ต้องมีนั้น คือส่วนใดบ้าง

1. ค่าการดำเนินงานรายเดือน นอกจากค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนเริ่มต้นแล้ว ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกิดขึ้นทุกเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบริการอินเทอร์เน็ต และค่าใช้จ่ายในสำนักงาน

  • ค่าน้ำ/ค่าไฟ โดยประมาณ 10,000 บาท - 20,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของคลินิก
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินงาน เช่น ค่าบริการอินเทอร์เน็ต ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน

2. เงินสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน คือ เงินที่มีไว้สำรองสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเช่น เครื่องมือเสียหาย หรือการซ่อมบำรุงสถานที่ มีความสำคัญมาก โดยควรมีเงินสำรองประมาณ 20% ของงบประมาณรายเดือน เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน

ปัจจัยที่มีผลต่อการวางแผนงบประมาณ


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


การเปิดคลินิกความงามไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับการมีเงินทุนเพียงพอ แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ ที่มีผลต่อการวางแผนงบประมาณ เช่น

  1. ทำเลที่ตั้งของคลินิกมีผลต่อค่าเช่า และจำนวนลูกค้าที่สามารถดึงดูดได้ หากเลือกทำเลที่มีการเข้าถึงง่าย เช่น  ใกล้ศูนย์การค้า หรือที่อยู่อาศัยหนาแน่น ติดบีทีเอส เดินทางง่าย ค่าเช่าจะสูงขึ้น แต่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มาก
  2. ประเภทบริการที่คลินิกจะให้บริการ ตัวอย่างเช่น คลินิกที่เน้นบริการพื้นฐาน เน้นการให้บริการทำทรีตเมนต์หน้า หรือการสักคิ้ว อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นน้อยกว่า แต่คลินิกที่ให้บริการเฉพาะทาง เช่น การใช้เลเซอร์หรือการผ่าตัดเสริมความงาม จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
  3. ประสบการณ์และชื่อเสียงของผู้ให้บริการ หากคลินิกมีผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักมาก ก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าจากทั้งใน และต่างประเทศได้มากขึ้น เพราะความน่าเชื่อถือของผู้เชี่ยวชาญ การเป็นที่รู้จักและได้ความนิยมของแพทย์ผู้ดูแลคนไข้ อาจช่วยให้เราสามารถตั้งราคาได้สูงขึ้นได้

ตัวอย่างการวางแผนการเงินเปิดคลินิกความงาม


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


มาดูตัวอย่างการวางแผนการเงินในการเปิดคลินิกความงาม เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นกัน

  1. ค่าเช่าคลินิก 50,000 บาท
  2. ค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ 100,000 บาท
  3. อุปกรณ์การแพทย์ 500,000 บาท
  4. เงินเดือนบุคลากร 150,000 บาท
  5. ค่าโฆษณาและการตลาด 20,000 บาท
  6. ค่าใช้จ่ายในสำนักงาน 10,000 บาท

รวมงบประมาณทั้งหมดที่ใช้สำหรับลงทุนเปิดคลินิกความงามครั้งนี้ เริ่มต้นที่ประมาณ 830,000 บาท ซึ่งคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเริ่มต้น และงบประมาณในการดำเนินงานในช่วงแรก

ProClinic ตัวช่วยที่ทำให้การลงทุนคุ้มค่ามากขึ้น


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


สำหรับคนที่ต้องการเปิดคลินิกความงามในยุคปัจจุบัน การเลือกใช้ระบบที่มีประสิทธิภาพ สามารถจัดการทุกขั้นตอนของคลินิกได้อย่างครบวงจรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในระบบที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์เจ้าของคลินิกได้อย่างดี คือ ProClinic ระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้การจัดการคลินิกความงามของคุณง่ายขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการเปิดคลินิกจนถึงการบริหารจัดการในระยะยาว รวมทั้งการเงินและการบัญชีที่ทำให้เราบริหารงบประมาณง่ายขึ้นในระยะยาว คุ้มค่ากับการลงทุนใช้ระบบนี้ให้กับคลินิกความงาม

  1. ระบบการจัดการข้อมูลของลูกค้า ProClinic จะช่วยให้คุณสามารถจัดการข้อมูลของลูกค้าได้อย่างมีระเบียบ โดยคุณสามารถบันทึกข้อมูลประวัติการรักษาของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างละเอียด เช่น ประวัติการใช้บริการ ผลการรักษาหรือแพ็คเกจที่ใช้บริการ ซึ่งจะช่วยให้การบริการลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถติดตามผลได้ ในส่วนนี้จะช่วยภาระเวลาทำงานของพนักงานได้ ทำให้เราจ้างพนักงานเท่าที่จำเป็นได้
  2. ระบบการนัดหมายและการจัดการคิว การนัดหมายลูกค้าสำหรับการรักษาหรือบริการต่าง ๆ ในคลินิกจะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วยระบบ ProClinic ที่สามารถช่วยคุณจัดการคิวได้อย่างมีระเบียบ ทั้งการนัดหมายล่วงหน้า และการจัดสรรเวลาของแพทย์หรือพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาคิวที่ซ้ำซ้อนและช่วยให้คลินิกดำเนินการได้ราบรื่น โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อระบบหรือแอปพลิเคชันเพื่อใช้จัดการคิวเพิ่ม โดยครบจบที่เดียวใน ProClinic ได้เลย
  3. ระบบการจัดการสต็อกสินค้าและอุปกรณ์ในคลินิกความงาม ซึ่งสำคัญสำหรับตรวจสอบ และบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง ระบบ ProClinic ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบปริมาณสต็อกและสินค้าที่ใช้ในการรักษาได้ง่ายขึ้น เมื่อใกล้หมดสต็อก ระบบจะแจ้งเตือนให้คุณทราบล่วงหน้า ช่วยให้การจัดซื้ออุปกรณ์ไม่ตกหล่นและไม่ขาดแคลน และจัดการงบประมาณสำหรับการสต็อกสินค้าได้สะดวกขึ้น
  4. ระบบการบันทึกการเงินและการออกใบเสร็จ เพราะการบริหารการเงินในคลินิกเป็นสิ่งที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ระบบ ProClinic ช่วยให้คุณสามารถบันทึกการรับ-จ่ายเงินของคลินิกได้อย่างแม่นยำ และช่วยตรวจสอบรายได้-รายจ่ายของคลินิกได้ง่าย ๆ ทำให้การเจ้าของคลินิกบริหารเรื่องบัญชีได้อย่างไม่ยุ่งยาก
  5. ระบบการวิเคราะห์และรายงาน ProClinic ที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ของคลินิก เช่น รายงานยอดขาย จำนวนลูกค้า การใช้บริการในแต่ละเดือน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการตลาด และพัฒนาคลินิกได้อย่างมีข้อมูลรองรับ
  6. Loyalty Program ระบบที่จะทำให้เราติดตามความเคลื่อนไหวของข้อมูลลูกค้า เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ด้วยการ ทำให้คลินิกรักษาลูกค้าเก่าไว้ได้ทุกประเภท และขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ ซึ่งสำคัญกับการเติบโตทางรายได้ของคลินิกอย่างยั่งยืน

สิ่งที่ ProClinic เข้าใจว่าต้องให้ช่วยอะไรอีกบ้าง


เปิดคลินิกใช้เงินเท่าไหร่? ใช้เงินเยอะไหม วิธีการลงทุน ความเสี่ยง


เนื่องจากการเปิดคลินิก ยังต้องการการจัดการด้านอื่น ๆ อีก ที่สามารถทำให้เจ้าของคลินิกบริหารธุรกิจความงามได้อย่างยั่งยืน และเติบโตต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณ

  1.  การให้คำปรึกษาด้านการเปิดคลินิก เนื่องจากการเริ่มต้นเปิดคลินิกต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ และมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกทำเลที่ตั้ง การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การวางแผนการเงิน และการสร้างแผนธุรกิจที่แข็งแกร่ง ProClinic มีทีมที่ปรึกษามืออาชีพที่สามารถช่วยคุณในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเริ่มต้นจนถึงการขยายธุรกิจ พวกเขาจะช่วยวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคลินิกคุณ และให้คำแนะนำในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโต
  2. การฝึกอบรมบุคลากร การมีทีมงานที่มีทักษะและความรู้ที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการให้บริการที่มีคุณภาพ จึงมีโปรแกรมการฝึกอบรมสำหรับบุคลากรของคลินิก ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมงานในคลินิก และใช้งานระบบได้อย่างราบรื่น
  3. อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับการรักษาและบริการที่มีมาตรฐาน ProClinic มีพันธมิตรที่สามารถจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับคลินิกความงามของคุณได้อย่างครบวงจร 
  4. การวางระบบการตลาดและโปรโมชัน การทำการตลาดและโปรโมชันที่ดีเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้าและสร้างชื่อเสียงให้กับคลินิก โดยมีการเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อนำมาวางแผนการตลาดที่เฉพาะกลุ่มลูกค้ามากขึ้น 
  5. การวิเคราะห์ข้อมูลและรายงาน ที่ช่วยให้เจ้าของคลินิกสามารถประเมินผลการดำเนินงานได้อย่างแม่นยำ ทั้งด้านรายได้ จำนวนลูกค้า ความพึงพอใจของลูกค้า และประสิทธิภาพการให้บริการ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์การดำเนินงานและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งไล่ดูข้อมูลเอง เพราะระบบประมวลผลผ่านกราฟรูปแบบต่าง ๆ มาให้แล้ว
  6. ระบบการฝึกอบรมและสนับสนุน ProClinic ไม่ได้แค่เป็นเครื่องมือในการจัดการคลินิกเท่านั้น แต่ยังมีการสนับสนุนและบริการฝึกอบรมให้กับเจ้าของคลินิกและทีมงาน เพื่อให้คุณสามารถใช้ระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้การดำเนินงานของคลินิกเป็นไปอย่างมืออาชีพ
  7. ความปลอดภัยและการรักษาข้อมูล ProClinic มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า และข้อมูลการเงินอย่างเข้มงวด ด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัสและการสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัย ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะไม่สูญหายหรือถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
  8. ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ ลบภาพจำแฟ้มประวัติคนไข้แบบเดิม ๆ ช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าถึง หรือค้นประวัติลูกค้าได้ง่าย ๆ แค่คลิกในระบบ ประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการซื้อวัสดุสำนักงาน รวมทั้งต้นทุนในการสร้างห้องเก็บแฟ้มประวัติด้วย

การเปิดคลินิกความงามต้องการการวางแผนและการจัดการที่ดีในหลายด้าน โดยเฉพาะงบประมาณที่คุ้มค่ากับการลงทุน เช่น การเลือกทำเล การฝึกอบรมบุคลากร และการบริหารการเงิน ซึ่ง ProClinic ได้พัฒนาโซลูชันครบวงจรเพื่อสนับสนุนการเปิดคลินิกให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางธุรกิจและกฎหมาย การฝึกอบรมทีมงาน การจัดการอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ การวางแผนการตลาด ไปจนถึงการบริหารการเงินและสต็อกสินค้า ช่วยให้เจ้าของคลินิกสามารถเปิด และบริหารคลินิกได้อย่างมืออาชีพ และมีประสิทธิภาพในการเติบโตในตลาดความงามอย่างมั่นคง


คำถามที่พบบ่อย


คลินิกความงาม กี่ปีคืนทุน

โดยทั่วไปอยู่ที่ 1–3 ปี สำหรับคลินิกขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง แต่ก็มีปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาคืนทุนร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น จำนวนเงินลงทุน ทำเลที่ตั้งคลินิก การให้บริการที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การบริหารต้นทุน และการทำกลยุทธ์การตลาด


เปิดคลินิกความงามต้องเสียภาษีอะไรบ้าง

การเปิดคลินิกความงามต้องเสียภาษีหลัก ๆ ดังนี้

  1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax) – ถ้าจดทะเบียนเป็นบริษัท ต้องเสียภาษีจากกำไรสุทธิ
  2. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) – ถ้าเป็นเจ้าของกิจการแบบบุคคลธรรมดา ต้องยื่นภาษีตามรายได้
  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) – หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้องจด VAT และเสียภาษี 7%
  4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) – กรณีจ้างแพทย์หรือพนักงานแบบฟรีแลนซ์ ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% หรือ 5%
  5. ภาษีป้าย – หากมีป้ายโฆษณาคลินิก ต้องเสียภาษีตามขนาดและเนื้อหาของป้าย
  6. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน – ถ้าคลินิกเป็นเจ้าของอาคาร ต้องเสียภาษีตามกฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง


เปิดคลินิกความงาม ใช้เงินเท่าไหร่

งบประมาณในการเปิดคลินิกความงาม ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของบริการที่ต้องการให้ แต่โดยทั่วไปสามารถแบ่งเป็น 3 ระดับหลัก ๆ ได้แก่

  1. คลินิกขนาดเล็ก (เริ่มต้น) – 1-3 ล้านบาท
  2. คลินิกขนาดกลาง – 3-10 ล้านบาท
  3. คลินิกขนาดใหญ่/พรีเมียม – 10 ล้านบาทขึ้นไป


เปิดคลินิกความงามรวยไหม

การเปิดคลินิกความงามสามารถทำให้รวยได้ หากมีการบริหารที่ดี เพราะธุรกิจนี้มีกำไรสูง เนื่องจากต้นทุนของบริการ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ หรือเลเซอร์ มักต่ำกว่าราคาขายหลายเท่า อีกทั้งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่มีกำลังซื้อและมีแนวโน้มกลับมาใช้บริการซ้ำ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริการอย่างเดียว ทำเลที่ตั้ง กลยุทธ์การตลาด และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งก็เป็นปัจจัยสำคัญ


หมอคลินิกความงาม จบอะไร

ขั้นตอนการเรียนเพื่อเป็นหมอคลินิกความงาม

  1. จบแพทยศาสตร์บัณฑิต (MD) – ใช้เวลาเรียนประมาณ 6 ปี
  2. สอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม – ต้องสอบผ่านของแพทยสภาเพื่อเป็นแพทย์ถูกต้องตามกฎหมาย
  3. ฝึกงานหรือทำงานในโรงพยาบาล – เพื่อเก็บประสบการณ์และพัฒนาทักษะพื้นฐาน
  4. อบรมหรือเรียนต่อด้านเวชศาสตร์ความงาม – เช่น คอร์สฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เลเซอร์ หรือเรียนต่อเฉพาะทาง
  5. ขึ้นทะเบียนและขอใบอนุญาตเปิดคลินิก – หากต้องการเปิดคลินิกของตัวเอง