การเปิดคลินิกไม่ใช่แค่เรื่องของการมีใบอนุญาตหรือการเตรียมทีมบุคลากรเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ควรใส่ใจนั่นก็คือ ป้ายคลินิก ที่เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการเปิดคลินิกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะป้ายคลินิกคือสิ่งแรกที่ผู้มาใช้บริการเห็น เป็นทั้งภาพลักษณ์ และภาพจำของคลินิก แถมยังสะท้อนถึงความพร้อมในการให้บริการที่ปลอดภัย โปร่งใส และได้มาตรฐานตามข้อกฎหมาย หลายคนอาจคิดว่าการทำป้ายหน้าร้านเป็นเพียงเรื่องของดีไซน์หรือความสวยงามเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วป้ายคลินิก ยังมีข้อกำหนดที่ชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี ตัวอักษร การจัดวาง ไปจนถึงเนื้อหาที่ต้องแสดงให้ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลินิกพยาบาล คลินิกเวชกรรม หรือคลินิกเสริมความงามที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายด้านสาธารณสุขและการโฆษณา
บทความนี้จะพาทุกคนไปศึกษาข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับมาตรฐานป้ายคลินิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งมือใหม่และมืออาชีพสามารถตรวจสอบความถูกต้องของป้ายที่ใช้งานอยู่ได้ รวมถึงรู้จักประเภทของป้ายที่ต้องติดตั้งทั้งภายในและภายนอกคลินิก พร้อมแนะนำจุดที่หลายคลินิกมักหลงลืม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายหากมีการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นป้ายคลินิกเวชกรรม ป้ายคลินิกความงาม ป้ายคลินิกทันตกรรม หรือป้ายคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น การเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องป้ายคลินิกอย่างครบถ้วนคือสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
ป้ายคลินิกที่ถูกต้องตามกฎกระทรวง สำคัญยังไง
ป้ายคลินิกพยาบาลสำคัญอย่างไร?
การติดตั้งป้ายคลินิกที่ถูกต้องตามกฎกระทรวงเป็นมากกว่าการบอกชื่อสถานพยาบาล เพราะถือเป็นข้อบังคับตามกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีความสำคัญในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น
- เป็นข้อบังคับทางกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดข้อกำหนดเรื่องรูปแบบ ขนาด สี และเนื้อหาของป้ายอย่างชัดเจน หากคลินิกไม่ปฏิบัติตามอาจถูกสั่งปรับ ระงับการให้บริการ หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้
- เพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ผู้มาใช้บริการจะรู้สึกมั่นใจเมื่อเห็นว่าคลินิกมีป้ายแสดงใบอนุญาตถูกต้องครบถ้วน แสดงว่าคลินิกมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และดำเนินกิจการโดยผู้มีความรู้ความสามารถจริง
- ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้สะดวก ป้ายที่ติดตั้งอย่างถูกต้อง ช่วยให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว เช่น ชื่อแพทย์ผู้รับผิดชอบ เลขใบอนุญาต หรือเวลาทำการ
- ลดความเสี่ยงในการถูกร้องเรียน หากไม่มีป้าย หรือป้ายไม่ตรงตามที่กฎหมายกำหนด อาจถูกประชาชนทั่วไปหรือคู่แข่งร้องเรียน ส่งผลให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย หรือเสียภาพลักษณ์ได้
- ส่งเสริมภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพ ป้ายคลินิกที่ออกแบบได้สวยงาม ขณะเดียวกันก็ถูกต้องตามมาตรฐาน ย่อมช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและดูน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า
ขนาดและรูปแบบของป้ายคลินิก
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ป้ายคลินิกต้องมีข้อความชัดเจน บ่งบอกประเภทของคลินิกอย่างตรงไปตรงมา และไม่เกินจริง เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม หรือคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยต้องมีการระบุชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้รับผิดชอบหลักชัดเจนอีกด้วย
ป้ายคลินิกเวชกรรม ขนาดมาตรฐาน :
- ความกว้างไม่น้อยกว่า 30 ซม.
- ความยาวขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและพื้นที่ติดตั้ง
- ตัวอักษรต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 5 ซม.
- ต้องใช้ภาษาที่ถูกต้อง ไม่มีคำโฆษณาเกินจริงหรือจูงใจผิด
การติดตั้งป้ายภายนอกคลินิก
- ป้ายต้องติดอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก
- ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในพื้นที่บดบัง หรือมีสิ่งกีดขวาง
- หากคลินิกตั้งอยู่ในอาคารสูง ต้องติดป้ายบริเวณชั้นล่างหน้าทางเข้าให้เห็นได้ชัดเจน
ป้ายภายนอกคลินิกมีป้ายอะไรบ้าง และติดตั้งอย่างไร
ป้ายหน้าร้าน
- ป้ายคลินิกควรมีดีไซน์ที่ดูน่าเชื่อถือ ไม่ใช้สีฉูดฉาดเกินไป
- เลือกใช้สีสันที่สะอาดตา เช่น ฟ้า ขาว เทา หลีกเลี่ยงสีแดงหรือเหลืองจัด
- เพิ่มโลโก้คลินิกเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของแบรนด์
ป้ายอนุญาตให้ประกอบการพยาบาล
- เป็นป้ายที่ต้องแสดงอย่างชัดเจนที่หน้าคลินิก
- ป้ายนี้แสดงถึงการได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการตามกฎหมาย
องค์ประกอบของป้ายอนุญาตให้ประกอบการพยาบาล
- แสดงชื่อสถานพยาบาล
- หมายเลขใบอนุญาต
- ชื่อผู้ได้รับอนุญาต
- ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อความหรือลบเลือน
ป้ายแจ้งวันเวลาทำการของคลินิก
- แสดงเวลาที่เปิด-ปิดให้บริการ
- ระบุวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันนักขัตฤกษ์
- ป้ายควรติดบริเวณประตูหรือหน้าคลินิกเพื่อความชัดเจน
ป้ายห้ามสูบบุหรี่
- ต้องติดในจุดที่เห็นได้ชัดเจน ทั้งภายในและภายนอก
- ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560
ป้ายภายในคลินิกมีป้ายอะไรบ้าง และติดตั้งอย่างไร
ป้าย Black Drop
- เป็นป้ายแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อแพทย์ผู้ให้บริการ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และข้อมูลผู้รับผิดชอบ
- ป้ายนี้จะติดไว้บริเวณหน้าห้องตรวจ หรือบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
ป้ายเคาน์เตอร์ต่าง ๆ
- ได้แก่ ป้ายเวชระเบียน ป้ายการเงิน ป้ายห้องรอพบแพทย์ เป็นต้น
- เพื่อจัดระเบียบการให้บริการและสร้างความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ
ป้ายห้องตรวจ / และป้ายชื่อแพทย์ผู้รับผิดชอบ
- ติดหน้าห้องตรวจทุกห้อง
- แสดงชื่อแพทย์ผู้ให้บริการ พร้อมหมายเลขใบประกอบวิชาชีพ
- หากมีแพทย์หมุนเวียน ต้องอัปเดตข้อมูลให้ตรงกับวันให้บริการ
ป้ายแจ้งการแพ้ยา
- ติดไว้ในบริเวณห้องฉีดยา ห้องตรวจ หรือตามจุดที่มีความเกี่ยวข้องกับการสั่งใช้ยา
- เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ระวังในการใช้ยาและเวชภัณฑ์กับผู้ป่วย
ป้ายถังดับเพลิง
- แสดงตำแหน่งของถังดับเพลิงอย่างชัดเจน
- ต้องมีคำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
- ตรวจสอบถังให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ
ข้อควรระวังของป้ายคลินิกมีอะไรบ้าง
ป้ายคลินิกไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามหรือการออกแบบให้สะดุดตาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกฎหมาย จริยธรรมทางการแพทย์ และภาพลักษณ์ของสถานพยาบาลโดยตรง หากละเลยหรือเข้าใจผิด อาจนำไปสู่การเสียค่าปรับ สูญเสียความน่าเชื่อถือ หรือกระทบต่อใบอนุญาตได้อย่างไม่คาดคิด
- ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนติดตั้ง สำหรับป้ายทุกประเภทที่ติดตั้งในที่โล่งแจ้ง หรือเห็นได้จากภายนอก ต้องยื่นขออนุญาตตามพระราชบัญญัติการควบคุมอาคาร และเสียภาษีป้ายประจำปี หากไม่ขออนุญาตจะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับและอาจถูกสั่งให้รื้อถอนทันที
- ข้อความต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ป้ายคลินิกไม่สามารถใช้ข้อความที่เกินจริง หลอกลวง หรือชวนเชื่อ เช่น “ปลอดภัย 100%" "เห็นผลทันที" "ไม่มีผลข้างเคียง" ต้องไม่มีการใช้คำหรือข้อความที่สื่อถึงการโฆษณาเกินจริง ห้ามใช้ถ้อยคำที่สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้รับบริการ หากมีการระบุชื่อแพทย์ ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจริง และต้องใช้คำนำหน้าถูกต้อง เช่น "แพทย์หญิง" หรือ "แพทย์ชาย" พร้อมเลขใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
- ห้ามแสดงภาพ Before-After หรือภาพผลลัพธ์มาแสดงบนป้าย เนื่องจากถือเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ และอาจละเมิดจริยธรรมวิชาชีพ แม้ภาพจะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยแล้ว ก็ยังไม่สามารถนำมาใช้บนป้ายที่มองเห็นจากภายนอกได้
- วัสดุและขนาดของป้ายต้องเหมาะสม ต้องเลือกวัสดุที่ทนทาน แข็งแรง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน เช่น ป้ายไม่ควรพังง่ายในช่วงลมแรงหรือฝนตก ขนาดของป้ายต้องไม่เกินที่กำหนดในแบบที่ได้รับอนุญาต และไม่รบกวนทางสาธารณะหรือบดบังป้ายอื่น
- ระวังการติดตั้งในพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการติดป้ายในพื้นที่เสี่ยงผิดกฎหมาย เช่น ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ผนังอาคารที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ เป็นต้น และควรติดในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางคนเดินถนนหรือทางเข้าออกฉุกเฉิน
- การอัปเดตข้อมูลบนป้าย เช่น หากมีการเปลี่ยนชื่อคลินิก หมายเลขโทรศัพท์ หรือแพทย์ประจำ ต้องปรับปรุงป้ายให้ตรงตามข้อมูลล่าสุด พร้อมยื่นเรื่องขอแก้ไขกับหน่วยงานที่ดูแล หลีกเลี่ยงการใช้ป้ายเก่าเพื่อประหยัดงบ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดและถูกลงโทษได้
- ต้องเสียภาษีป้ายประจำปี โดยทุกป้ายที่แสดงชื่อโลโก้กิจการต้องเสียภาษีป้ายตามกฎหมายภายในเดือนมกราคมของทุกปี หากไม่ยื่นแบบแสดงรายการหรือไม่ชำระภาษี จะถูกปรับและเรียกเก็บย้อนหลัง
ป้ายคลินิกไม่ใช่เพียงแค่สื่อหรือการโฆษณาเพื่อบ่งบอกสถานที่เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ มาตรฐาน และความปลอดภัยของสถานพยาบาลอย่างชัดเจน ที่เจ้าของคลินิกทุกคนควรให้ความสำคัญกับการออกแบบ และติดตั้งป้ายให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งในแง่ของขนาด สี ฟอนต์ การจัดวาง รวมถึงข้อมูลที่แสดงบนป้ายอย่างครบถ้วน ของปายทุกประเภทที่ต้องมี ไม่ว่าจะเป็น ป้ายภายนอกและภายในคลินิก ทั้งป้ายหน้าร้าน ป้ายใบอนุญาตประกอบกิจการพยาบาล ป้ายวันเวลาทำการ ป้ายแจ้งชื่อแพทย์ ป้ายห้ามสูบบุหรี่ ไปจนถึงป้ายถังดับเพลิง ซึ่งล้วนเป็นรายละเอียดที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ หากละเลยเรื่องเหล่านี้ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ถูกสั่งระงับการให้บริการชั่วคราว เสียค่าปรับ หรือกระทบต่อภาพลักษณ์คลินิกได้ในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย
ป้ายคลินิกต้องขออนุญาตไหม?
ต้องขออนุญาต ตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ต้องขออนุญาตติดตั้งป้ายจาก สำนักงานเขต/เทศบาล
- ต้องเสีย ภาษีป้าย ตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510
- ป้ายต้องใช้ ชื่อคลินิกตรงตามที่จดทะเบียน
- ต้องไม่ใช้ข้อความหรือภาพที่ โอ้อวดหรือทำให้เข้าใจผิด
ข้อความบนป้ายคลินิกต้องมีอะไรบ้าง?
- ชื่อคลินิกที่ตรงกับชื่อที่จดทะเบียน
- ประเภทของสถานพยาบาล เช่น คลินิกเวชกรรมหรือคลินิกเสริมความงาม
- ชื่อแพทย์ผู้รับผิดชอบ ถ้ามีกำหนดในใบอนุญาต
- เลขใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
- ต้องไม่มีข้อความโอ้อวด เกินจริง หรือหลอกลวง
- ต้องไม่ใช้คำว่า “โรงพยาบาล” หรือข้อความที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรงพยาบาล
สามารถใส่รูป Before-After หรือข้อความชวนเชื่อบนป้ายได้ไหม?
ไม่สามารถใส่รูป Before-After หรือข้อความชวนเชื่อบนป้ายคลินิกได้ เนื่องจากผิดระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล โดยเฉพาะ
- ห้ามใช้รูป Before-After เพื่อโฆษณาผลลัพธ์ทางการแพทย์
- ห้ามใช้ข้อความที่โอ้อวด เกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิด เช่น “เห็นผลทันที” หรือ “สวยเหมือนดารา” เป็นต้น
- สามารถใช้ป้ายเพื่อแสดงชื่อคลินิก ประเภทบริการ และข้อมูลพื้นฐานที่ไม่ชักชวนหรือโฆษณาเกินจริงได้
ป้ายโปรโมชัน (เช่น ลดราคา, แพ็กเกจพิเศษ) ต้องขออนุญาตไหม?
ป้ายโปรโมชัน เช่น ลดราคา หรือแพ็กเกจพิเศษ ต้องขออนุญาตจากเขต/เทศบาล หากเป็นการติดตั้งในที่สาธารณะหรือภายนอกอาคาร โดยเฉพาะกรณีที่เข้าข่าย “ป้ายโฆษณา” ตามกฎหมาย ต้องปฏิบัติตามดังนี้
- ขออนุญาตติดตั้งป้ายตามกฎหมายภาษีป้าย
- ป้ายต้องไม่แสดงข้อความโอ้อวดหรือชวนเชื่อเกินจริง
- หากเนื้อหามีลักษณะโฆษณาทางการแพทย์ ต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน
ถ้าจะใส่ชื่อแพทย์บนป้าย ต้องทำอย่างไร?
- ใช้ชื่อจริง-นามสกุล ของแพทย์ พร้อมคำนำหน้า “แพทย์หญิง” หรือ “แพทย์ชาย”
- ระบุเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (เช่น ว.12345) ให้ชัดเจน
- ต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพ จากแพทยสภา และมีรายชื่อในระบบ
- หากเป็นป้าย ภายนอกอาคาร หรือเข้าข่ายป้ายโฆษณา
- ต้องขออนุญาตติดตั้งป้าย จากเขต/เทศบาล
- เนื้อหาและขนาดต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ภาษีป้าย
ขนาดของป้ายมีข้อกำหนดหรือไม่?
1. ตามกฎหมายภาษีป้าย (พ.ร.บ.ภาษีป้าย)
- ขนาดป้าย ส่งผลต่อ อัตราภาษีที่ต้องชำระ
- ขนาดมากกว่า 0.5 ตร.ม. ต้องยื่นแบบและเสียภาษีป้าย
- ยิ่งขนาดใหญ่ อัตราภาษีจะยิ่งสูงตามพื้นที่ป้าย
2. ตามข้อกำหนดท้องถิ่น (เทศบาล/เขต)
- บางพื้นที่มี ข้อจำกัดเรื่องความสูง ความยาว ความกว้าง ของป้าย โดยเฉพาะป้ายติดหน้าร้าน/ริมถนน
- ต้องขอ อนุญาตก่อสร้าง/ติดตั้งป้าย หากติดภายนอกอาคารหรือมีโครงสร้างรองรับ
3. ตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข (สำหรับสถานพยาบาล)
- ไม่มีระบุขนาดเป๊ะ แต่ต้องดู เหมาะสม ไม่เกินจริง และไม่สร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน
- ห้ามมีลักษณะโอ้อวดหรือโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ใช้วัสดุอะไรก็ได้ไหม?
ป้ายคลินิกควรเลือกวัสดุให้เหมาะสมตามกฎหมายและความปลอดภัย ได้แก่
- อะคริลิก / พลาสติกแข็ง ที่ทนทาน กันน้ำ ดูสะอาดเหมาะกับภาพลักษณ์คลินิก
- อลูมิเนียมคอมโพสิต ที่มีความแข็งแรง ทนแดด กันสนิม อายุการใช้งานยาว
- สแตนเลส / โลหะพ่นสี ถ้าต้องการความหรูหรา และทนต่อสภาพอากาศ
ควรหลีกเลี่ยงวัสดุชั่วคราว เช่น ฟิวเจอร์บอร์ด ไวนิลบาง ๆ เพราะดูไม่มืออาชีพ และอาจผิดระเบียบกรณีติดตั้งถาวร หรือวัสดุที่ติดไฟง่ายหรือแตกหักง่าย มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย
หากไม่ขออนุญาตติดตั้งป้าย จะมีผลอย่างไร?
1. ผลทางกฎหมาย
- ถูกปรับไม่เกิน 5,000 บาท
- ต้องเสียภาษีย้อนหลัง พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
- ถูกสั่งให้รื้อถอนหรือแก้ไขป้ายทันที
- มีความผิดซ้ำซ้อน หากป้ายมีเนื้อหาผิดกฎหมายหรือขัดต่อจริยธรรมวิชาชีพ
2. ผลกระทบต่อธุรกิจ
- สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้กับคลินิก
- อาจถูกตรวจสอบเอกสารหรือใบอนุญาตอื่น ๆ เพิ่มเติม
- มีผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและหน่วยงานรัฐ