มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง

มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง

8 พฤษภาคม 2568 เทคนิคบริหารคลินิก 6เข้าชม

การเปิดคลินิกไม่ใช่แค่เรื่องของการมีใบอนุญาตหรือการเตรียมทีมบุคลากรเท่านั้น แต่ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ ที่ควรใส่ใจนั่นก็คือ ป้ายคลินิก ที่เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการเปิดคลินิกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะป้ายคลินิกคือสิ่งแรกที่ผู้มาใช้บริการเห็น เป็นทั้งภาพลักษณ์ และภาพจำของคลินิก แถมยังสะท้อนถึงความพร้อมในการให้บริการที่ปลอดภัย โปร่งใส และได้มาตรฐานตามข้อกฎหมาย หลายคนอาจคิดว่าการทำป้ายหน้าร้านเป็นเพียงเรื่องของดีไซน์หรือความสวยงามเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วป้ายคลินิก ยังมีข้อกำหนดที่ชัดเจนจากกระทรวงสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี ตัวอักษร การจัดวาง ไปจนถึงเนื้อหาที่ต้องแสดงให้ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลินิกพยาบาล คลินิกเวชกรรม หรือคลินิกเสริมความงามที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายด้านสาธารณสุขและการโฆษณา

บทความนี้จะพาทุกคนไปศึกษาข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับมาตรฐานป้ายคลินิกที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งมือใหม่และมืออาชีพสามารถตรวจสอบความถูกต้องของป้ายที่ใช้งานอยู่ได้ รวมถึงรู้จักประเภทของป้ายที่ต้องติดตั้งทั้งภายในและภายนอกคลินิก พร้อมแนะนำจุดที่หลายคลินิกมักหลงลืม ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายหากมีการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นป้ายคลินิกเวชกรรม ป้ายคลินิกความงาม ป้ายคลินิกทันตกรรม หรือป้ายคลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น การเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องป้ายคลินิกอย่างครบถ้วนคือสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

ป้ายคลินิกที่ถูกต้องตามกฎกระทรวง สำคัญยังไง


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


ป้ายคลินิกพยาบาลสำคัญอย่างไร?

การติดตั้งป้ายคลินิกที่ถูกต้องตามกฎกระทรวงเป็นมากกว่าการบอกชื่อสถานพยาบาล เพราะถือเป็นข้อบังคับตามกฎหมายที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งมีความสำคัญในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็น

  1.  เป็นข้อบังคับทางกฎหมาย กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดข้อกำหนดเรื่องรูปแบบ ขนาด สี และเนื้อหาของป้ายอย่างชัดเจน หากคลินิกไม่ปฏิบัติตามอาจถูกสั่งปรับ ระงับการให้บริการ หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้
  2. เพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ผู้มาใช้บริการจะรู้สึกมั่นใจเมื่อเห็นว่าคลินิกมีป้ายแสดงใบอนุญาตถูกต้องครบถ้วน แสดงว่าคลินิกมีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และดำเนินกิจการโดยผู้มีความรู้ความสามารถจริง
  3. ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้สะดวก ป้ายที่ติดตั้งอย่างถูกต้อง ช่วยให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐสามารถตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว เช่น ชื่อแพทย์ผู้รับผิดชอบ เลขใบอนุญาต หรือเวลาทำการ
  4. ลดความเสี่ยงในการถูกร้องเรียน หากไม่มีป้าย หรือป้ายไม่ตรงตามที่กฎหมายกำหนด อาจถูกประชาชนทั่วไปหรือคู่แข่งร้องเรียน ส่งผลให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย หรือเสียภาพลักษณ์ได้
  5. ส่งเสริมภาพลักษณ์และความเป็นมืออาชีพ ป้ายคลินิกที่ออกแบบได้สวยงาม ขณะเดียวกันก็ถูกต้องตามมาตรฐาน ย่อมช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและดูน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้า

ขนาดและรูปแบบของป้ายคลินิก

มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง

ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ป้ายคลินิกต้องมีข้อความชัดเจน บ่งบอกประเภทของคลินิกอย่างตรงไปตรงมา และไม่เกินจริง เช่น คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม หรือคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยต้องมีการระบุชื่อผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้รับผิดชอบหลักชัดเจนอีกด้วย

ป้ายคลินิกเวชกรรม ขนาดมาตรฐาน :

  • ความกว้างไม่น้อยกว่า 30 ซม.
  • ความยาวขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและพื้นที่ติดตั้ง
  • ตัวอักษรต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 5 ซม.
  • ต้องใช้ภาษาที่ถูกต้อง ไม่มีคำโฆษณาเกินจริงหรือจูงใจผิด

การติดตั้งป้ายภายนอกคลินิก

  • ป้ายต้องติดอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนจากภายนอก
  • ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในพื้นที่บดบัง หรือมีสิ่งกีดขวาง
  • หากคลินิกตั้งอยู่ในอาคารสูง ต้องติดป้ายบริเวณชั้นล่างหน้าทางเข้าให้เห็นได้ชัดเจน

ป้ายภายนอกคลินิกมีป้ายอะไรบ้าง และติดตั้งอย่างไร


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


ป้ายหน้าร้าน

  • ป้ายคลินิกควรมีดีไซน์ที่ดูน่าเชื่อถือ ไม่ใช้สีฉูดฉาดเกินไป
  • เลือกใช้สีสันที่สะอาดตา เช่น ฟ้า ขาว เทา หลีกเลี่ยงสีแดงหรือเหลืองจัด
  • เพิ่มโลโก้คลินิกเพื่อแสดงอัตลักษณ์ของแบรนด์

ป้ายอนุญาตให้ประกอบการพยาบาล

  • เป็นป้ายที่ต้องแสดงอย่างชัดเจนที่หน้าคลินิก
  • ป้ายนี้แสดงถึงการได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการตามกฎหมาย

องค์ประกอบของป้ายอนุญาตให้ประกอบการพยาบาล

  • แสดงชื่อสถานพยาบาล
  • หมายเลขใบอนุญาต
  • ชื่อผู้ได้รับอนุญาต
  • ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อความหรือลบเลือน

ป้ายแจ้งวันเวลาทำการของคลินิก

  • แสดงเวลาที่เปิด-ปิดให้บริการ
  • ระบุวันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันนักขัตฤกษ์
  • ป้ายควรติดบริเวณประตูหรือหน้าคลินิกเพื่อความชัดเจน

ป้ายห้ามสูบบุหรี่


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


  • ต้องติดในจุดที่เห็นได้ชัดเจน ทั้งภายในและภายนอก
  • ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560

ป้ายภายในคลินิกมีป้ายอะไรบ้าง และติดตั้งอย่างไร


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


ป้าย Black Drop

  • เป็นป้ายแสดงข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อแพทย์ผู้ให้บริการ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และข้อมูลผู้รับผิดชอบ
  • ป้ายนี้จะติดไว้บริเวณหน้าห้องตรวจ หรือบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

ป้ายเคาน์เตอร์ต่าง ๆ

  • ได้แก่ ป้ายเวชระเบียน ป้ายการเงิน ป้ายห้องรอพบแพทย์ เป็นต้น
  • เพื่อจัดระเบียบการให้บริการและสร้างความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ

ป้ายห้องตรวจ / และป้ายชื่อแพทย์ผู้รับผิดชอบ


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


  • ติดหน้าห้องตรวจทุกห้อง
  • แสดงชื่อแพทย์ผู้ให้บริการ พร้อมหมายเลขใบประกอบวิชาชีพ
  • หากมีแพทย์หมุนเวียน ต้องอัปเดตข้อมูลให้ตรงกับวันให้บริการ

ป้ายแจ้งการแพ้ยา

  • ติดไว้ในบริเวณห้องฉีดยา ห้องตรวจ หรือตามจุดที่มีความเกี่ยวข้องกับการสั่งใช้ยา
  • เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ระวังในการใช้ยาและเวชภัณฑ์กับผู้ป่วย

ป้ายถังดับเพลิง


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


  • แสดงตำแหน่งของถังดับเพลิงอย่างชัดเจน
  • ต้องมีคำแนะนำการใช้งานเบื้องต้น
  • ตรวจสอบถังให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ

ข้อควรระวังของป้ายคลินิกมีอะไรบ้าง


มาตรฐานป้ายคลินิกที่ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตาม มีอะไรบ้าง


ป้ายคลินิกไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามหรือการออกแบบให้สะดุดตาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกฎหมาย จริยธรรมทางการแพทย์ และภาพลักษณ์ของสถานพยาบาลโดยตรง หากละเลยหรือเข้าใจผิด อาจนำไปสู่การเสียค่าปรับ สูญเสียความน่าเชื่อถือ หรือกระทบต่อใบอนุญาตได้อย่างไม่คาดคิด

  1. ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นก่อนติดตั้ง สำหรับป้ายทุกประเภทที่ติดตั้งในที่โล่งแจ้ง หรือเห็นได้จากภายนอก ต้องยื่นขออนุญาตตามพระราชบัญญัติการควบคุมอาคาร และเสียภาษีป้ายประจำปี หากไม่ขออนุญาตจะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับและอาจถูกสั่งให้รื้อถอนทันที
  2. ข้อความต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ป้ายคลินิกไม่สามารถใช้ข้อความที่เกินจริง หลอกลวง หรือชวนเชื่อ เช่น “ปลอดภัย 100%" "เห็นผลทันที" "ไม่มีผลข้างเคียง" ต้องไม่มีการใช้คำหรือข้อความที่สื่อถึงการโฆษณาเกินจริง ห้ามใช้ถ้อยคำที่สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้รับบริการ หากมีการระบุชื่อแพทย์ ต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจริง และต้องใช้คำนำหน้าถูกต้อง เช่น "แพทย์หญิง" หรือ "แพทย์ชาย" พร้อมเลขใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
  3. ห้ามแสดงภาพ Before-After หรือภาพผลลัพธ์มาแสดงบนป้าย เนื่องจากถือเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ และอาจละเมิดจริยธรรมวิชาชีพ แม้ภาพจะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยแล้ว ก็ยังไม่สามารถนำมาใช้บนป้ายที่มองเห็นจากภายนอกได้
  4. วัสดุและขนาดของป้ายต้องเหมาะสม ต้องเลือกวัสดุที่ทนทาน แข็งแรง และไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน เช่น ป้ายไม่ควรพังง่ายในช่วงลมแรงหรือฝนตก ขนาดของป้ายต้องไม่เกินที่กำหนดในแบบที่ได้รับอนุญาต และไม่รบกวนทางสาธารณะหรือบดบังป้ายอื่น
  5. ระวังการติดตั้งในพื้นที่ไม่เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการติดป้ายในพื้นที่เสี่ยงผิดกฎหมาย เช่น ที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ผนังอาคารที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ เป็นต้น และควรติดในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่กีดขวางคนเดินถนนหรือทางเข้าออกฉุกเฉิน
  6. การอัปเดตข้อมูลบนป้าย เช่น หากมีการเปลี่ยนชื่อคลินิก หมายเลขโทรศัพท์ หรือแพทย์ประจำ ต้องปรับปรุงป้ายให้ตรงตามข้อมูลล่าสุด พร้อมยื่นเรื่องขอแก้ไขกับหน่วยงานที่ดูแล หลีกเลี่ยงการใช้ป้ายเก่าเพื่อประหยัดงบ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดและถูกลงโทษได้
  7. ต้องเสียภาษีป้ายประจำปี โดยทุกป้ายที่แสดงชื่อโลโก้กิจการต้องเสียภาษีป้ายตามกฎหมายภายในเดือนมกราคมของทุกปี หากไม่ยื่นแบบแสดงรายการหรือไม่ชำระภาษี จะถูกปรับและเรียกเก็บย้อนหลัง

ป้ายคลินิกไม่ใช่เพียงแค่สื่อหรือการโฆษณาเพื่อบ่งบอกสถานที่เท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ มาตรฐาน และความปลอดภัยของสถานพยาบาลอย่างชัดเจน ที่เจ้าของคลินิกทุกคนควรให้ความสำคัญกับการออกแบบ และติดตั้งป้ายให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งในแง่ของขนาด สี ฟอนต์ การจัดวาง รวมถึงข้อมูลที่แสดงบนป้ายอย่างครบถ้วน ของปายทุกประเภทที่ต้องมี ไม่ว่าจะเป็น ป้ายภายนอกและภายในคลินิก ทั้งป้ายหน้าร้าน ป้ายใบอนุญาตประกอบกิจการพยาบาล ป้ายวันเวลาทำการ ป้ายแจ้งชื่อแพทย์ ป้ายห้ามสูบบุหรี่ ไปจนถึงป้ายถังดับเพลิง ซึ่งล้วนเป็นรายละเอียดที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ หากละเลยเรื่องเหล่านี้ อาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ถูกสั่งระงับการให้บริการชั่วคราว เสียค่าปรับ หรือกระทบต่อภาพลักษณ์คลินิกได้ในระยะยาว


คำถามที่พบบ่อย


ป้ายคลินิกต้องขออนุญาตไหม?

ต้องขออนุญาต ตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ต้องขออนุญาตติดตั้งป้ายจาก สำนักงานเขต/เทศบาล
  2. ต้องเสีย ภาษีป้าย ตาม พ.ร.บ.ภาษีป้าย พ.ศ. 2510
  3. ป้ายต้องใช้ ชื่อคลินิกตรงตามที่จดทะเบียน
  4. ต้องไม่ใช้ข้อความหรือภาพที่ โอ้อวดหรือทำให้เข้าใจผิด


ข้อความบนป้ายคลินิกต้องมีอะไรบ้าง?

  1. ชื่อคลินิกที่ตรงกับชื่อที่จดทะเบียน
  2. ประเภทของสถานพยาบาล เช่น คลินิกเวชกรรมหรือคลินิกเสริมความงาม
  3. ชื่อแพทย์ผู้รับผิดชอบ ถ้ามีกำหนดในใบอนุญาต
  4. เลขใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
  5. ต้องไม่มีข้อความโอ้อวด เกินจริง หรือหลอกลวง
  6. ต้องไม่ใช้คำว่า “โรงพยาบาล” หรือข้อความที่ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรงพยาบาล


สามารถใส่รูป Before-After หรือข้อความชวนเชื่อบนป้ายได้ไหม?

ไม่สามารถใส่รูป Before-After หรือข้อความชวนเชื่อบนป้ายคลินิกได้ เนื่องจากผิดระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล โดยเฉพาะ

  • ห้ามใช้รูป Before-After เพื่อโฆษณาผลลัพธ์ทางการแพทย์
  • ห้ามใช้ข้อความที่โอ้อวด เกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิด เช่น “เห็นผลทันที” หรือ “สวยเหมือนดารา” เป็นต้น
  • สามารถใช้ป้ายเพื่อแสดงชื่อคลินิก ประเภทบริการ และข้อมูลพื้นฐานที่ไม่ชักชวนหรือโฆษณาเกินจริงได้


ป้ายโปรโมชัน (เช่น ลดราคา, แพ็กเกจพิเศษ) ต้องขออนุญาตไหม?

ป้ายโปรโมชัน เช่น ลดราคา หรือแพ็กเกจพิเศษ ต้องขออนุญาตจากเขต/เทศบาล หากเป็นการติดตั้งในที่สาธารณะหรือภายนอกอาคาร โดยเฉพาะกรณีที่เข้าข่าย “ป้ายโฆษณา” ตามกฎหมาย ต้องปฏิบัติตามดังนี้

  • ขออนุญาตติดตั้งป้ายตามกฎหมายภาษีป้าย
  • ป้ายต้องไม่แสดงข้อความโอ้อวดหรือชวนเชื่อเกินจริง
  • หากเนื้อหามีลักษณะโฆษณาทางการแพทย์ ต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน


ถ้าจะใส่ชื่อแพทย์บนป้าย ต้องทำอย่างไร?

  1. ใช้ชื่อจริง-นามสกุล ของแพทย์ พร้อมคำนำหน้า “แพทย์หญิง” หรือ “แพทย์ชาย”
  2. ระบุเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (เช่น ว.12345) ให้ชัดเจน
  3. ต้องเป็นแพทย์ที่ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพ จากแพทยสภา และมีรายชื่อในระบบ
  4. หากเป็นป้าย ภายนอกอาคาร หรือเข้าข่ายป้ายโฆษณา
  • ต้องขออนุญาตติดตั้งป้าย จากเขต/เทศบาล
  • เนื้อหาและขนาดต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของ พ.ร.บ.ภาษีป้าย


ขนาดของป้ายมีข้อกำหนดหรือไม่?

1. ตามกฎหมายภาษีป้าย (พ.ร.บ.ภาษีป้าย)

  • ขนาดป้าย ส่งผลต่อ อัตราภาษีที่ต้องชำระ
    • ขนาดมากกว่า 0.5 ตร.ม. ต้องยื่นแบบและเสียภาษีป้าย
    • ยิ่งขนาดใหญ่ อัตราภาษีจะยิ่งสูงตามพื้นที่ป้าย

2. ตามข้อกำหนดท้องถิ่น (เทศบาล/เขต)

  • บางพื้นที่มี ข้อจำกัดเรื่องความสูง ความยาว ความกว้าง ของป้าย โดยเฉพาะป้ายติดหน้าร้าน/ริมถนน
  • ต้องขอ อนุญาตก่อสร้าง/ติดตั้งป้าย หากติดภายนอกอาคารหรือมีโครงสร้างรองรับ

3. ตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข (สำหรับสถานพยาบาล)

  • ไม่มีระบุขนาดเป๊ะ แต่ต้องดู เหมาะสม ไม่เกินจริง และไม่สร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน
  • ห้ามมีลักษณะโอ้อวดหรือโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต


ใช้วัสดุอะไรก็ได้ไหม?

ป้ายคลินิกควรเลือกวัสดุให้เหมาะสมตามกฎหมายและความปลอดภัย ได้แก่

  1. อะคริลิก / พลาสติกแข็ง ที่ทนทาน กันน้ำ ดูสะอาดเหมาะกับภาพลักษณ์คลินิก
  2. อลูมิเนียมคอมโพสิต ที่มีความแข็งแรง ทนแดด กันสนิม อายุการใช้งานยาว
  3. สแตนเลส / โลหะพ่นสี ถ้าต้องการความหรูหรา และทนต่อสภาพอากาศ

ควรหลีกเลี่ยงวัสดุชั่วคราว เช่น ฟิวเจอร์บอร์ด ไวนิลบาง ๆ เพราะดูไม่มืออาชีพ และอาจผิดระเบียบกรณีติดตั้งถาวร หรือวัสดุที่ติดไฟง่ายหรือแตกหักง่าย มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย


หากไม่ขออนุญาตติดตั้งป้าย จะมีผลอย่างไร? 

1. ผลทางกฎหมาย

  • ถูกปรับไม่เกิน 5,000 บาท
  • ต้องเสียภาษีย้อนหลัง พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
  • ถูกสั่งให้รื้อถอนหรือแก้ไขป้ายทันที
  • มีความผิดซ้ำซ้อน หากป้ายมีเนื้อหาผิดกฎหมายหรือขัดต่อจริยธรรมวิชาชีพ

2. ผลกระทบต่อธุรกิจ

  • สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้กับคลินิก
  • อาจถูกตรวจสอบเอกสารหรือใบอนุญาตอื่น ๆ เพิ่มเติม
  • มีผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและหน่วยงานรัฐ