ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

10 มิถุนายน 2568 เทคนิคบริหารคลินิก 76เข้าชม

ในการเข้ารับบริการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นในโรงพยาบาล คลินิก หรือสถานพยาบาลเฉพาะทาง อย่างคลินิกความงาม หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นในใบเสร็จหรือใบแจ้งค่ารักษาพยาบาล ที่มีรายการหนึ่งชื่อว่าค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือที่เรียกกันว่า Doctor Fee (DF) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายโดยรวมที่ผู้ป่วยต้องชำระ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจชัดเจนว่าค่า DF นี้คืออะไร และคิดจากอะไร รวมไปถึงครอบคลุมอะไรบ้าง ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับค่า DF แพทย์ เพื่อให้ทั้งเจ้าของคลินิก บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงลูกค้าคลินิกเข้าใจโครงสร้างค่าบริการนี้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดความเข้าใจผิดในระบบบริการทางการแพทย์อีกด้วย


ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือ Doctor fee คืออะไร ?

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือ Doctor Fee (DF) คือ ค่าตอบแทนที่โรงพยาบาลหรือคลินิกจ่ายให้แพทย์สำหรับการให้บริการทางการแพทย์โดยตรง ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่การตรวจร่างกาย การซักประวัติ การวินิจฉัยโรค การให้คำปรึกษา การทำหัตถการ จนถึงการติดตามผลการรักษา โดยทั่วไปแล้ว ค่า DF จะถูกเรียกเก็บจากผู้ป่วยและแสดงแยกจากค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่ายา ค่าห้อง หรือค่าเวชภัณฑ์ เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าค่าบริการนี้จะไม่ใช่ค่าอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในสถานพยาบาล

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

ตัวอย่างค่า DF ที่พบได้บ่อย ได้แก่

  1. ค่าตรวจโดยแพทย์ทั่วไปหรือแพทย์เฉพาะทาง เช่น ค่าทำหัตถการในคลินิกความงาม 
  2. ค่าผ่าตัดโดยศัลยแพทย์
  3. ค่าปรึกษาผลทางห้องปฏิบัติการ
  4. ค่าติดตามอาการหลังผ่าตัด
  5. ค่าดูแลในผู้ป่วยในระยะวิกฤต (Critical care)


จุดประสงค์หลักของค่า DF คือ

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

  1. เป็นค่าตอบแทนความรู้ ความชำนาญ และเวลาในการให้บริการ
  2. สร้างมาตรฐานบริการทางการแพทย์ การกำหนดค่า DF อย่างมีระบบ จะช่วยให้การบริการมีมาตรฐาน เป็นธรรม และโปร่งใสทั้งสำหรับแพทย์ และคนไข้ โดยไม่เกิดการประเมินค่าบริการแบบสุ่มหรือไม่อิงความชำนาญจริง
  3. สนับสนุนการจัดสรรทรัพยากรภายในคลินิกและโรงพยาบาล เช่น ค่าจ้างทีมสนับสนุนทางการแพทย์ ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ และการพัฒนาคุณภาพบริการโดยรวม
  4. กระตุ้นให้แพทย์พัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง ระบบค่า DF จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้แพทย์พัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ อัปเดตแนวทางการรักษา และเข้าร่วมอบรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถให้บริการที่ดีที่สุดแก่คนไข้
  5. เป็นข้อมูลประกอบสำหรับการวางแผนการเงินของผู้ป่วย เมื่อมีการแสดงค่า DF แยกชัดเจนในใบเสร็จหรือระบบนัดหมาย      ผู้ป่วยสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้า เปรียบเทียบบริการ และเตรียมเอกสารสำหรับเบิกค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันได้ง่ายขึ้น


ค่า DF ครอบคลุมอะไรบ้าง ?

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

ค่า DF ทางการแพทย์ จะครอบคลุมงานหรือหน้าที่เฉพาะของแพทย์ ดังนี้

  1. ค่าตรวจวินิจฉัยและให้คำปรึกษา ที่รวมถึงการสอบถามอาการ การซักประวัติ การตรวจร่างกาย และการวางแผนการรักษา
  2. ค่าทำหัตถการหรือผ่าตัดเล็ก เช่น การเย็บแผล การถอนฟัน การเจาะหนอง เป็นต้น
  3. ค่าติดตามผลการรักษา สำหรับการนัดตรวจซ้ำ และการประเมินผลหลังการรักษา
  4. ค่าให้คำแนะนำทางการแพทย์ เช่น แนะนำการใช้ยา การดูแลตนเอง การป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
  5. ค่าการอ่านผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การวิเคราะห์ผลเลือด ผลเอกซเรย์ และCT Scan เป็นต้น


ค่า DF แสดงในใบเสร็จอย่างไร ?

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

ค่า DF มักจะแสดงรายละเอียดอยู่ในใบเสร็จหรือใบแจ้งค่ารักษาพยาบาลภายใต้ชื่อค่าธรรมเนียมแพทย์ (Doctor Fee) หรือบางครั้งอาจแสดงในตัวย่อว่า "DF" โดยแยกออกจากรายการอื่น ๆ อย่างชัดเจน เช่น ค่ายา ค่าห้อง ค่าเวชภัณฑ์ หรือค่าธรรมเนียมบริการโรงพยาบาล ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใสและให้ผู้รับบริการสามารถตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายได้อย่างชัดเจน


ค่า DF เหมือนกับค่าบริการคลินิกหรือไม่ ?

ในส่วนของค่า DF จะไม่เหมือนกับค่าบริการคลินิก อย่างที่เรารู้แล้วว่าค่า DF แพทย์ คือค่าตอบแทนสำหรับแพทย์ผู้ให้บริการ ขณะที่ค่าบริการคลินิกหรือค่าบริการสถานพยาบาล จะเป็นค่าบริหารจัดการทั่วไป เช่น ค่าทำความสะอาด ค่าดูแลสถานที่ ค่าพนักงาน และค่าอุปกรณ์พื้นฐานในสถานที่นั้น ๆ ดังนั้น ค่า DF และค่าบริการคลินิกจึงเป็นค่าใช้จ่ายคนละประเภท ที่ระบุไว้ชัดเจนแล้วแม้อาจถูกรวมอยู่ในใบเสร็จเดียวกันก็ตาม


ค่า DF สามารถเบิกประกันได้หรือไม่ ?

สำหรับในหลายกรณี ค่า DF สามารถเบิกประกันสุขภาพได้ โดยเฉพาะประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) อย่างไรก็ตาม การเบิกค่า DF ต้องพิจารณาตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันด้วย เช่น ต้องมีใบเสร็จรับเงินที่ระบุชัดเจนว่าค่าธรรมเนียมแพทย์เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการรักษาพยาบาลและอยู่ในวงเงินที่ประกันอนุมัติ


ค่า DF ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ?

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจกันก่อนว่า ค่าธรรมเนียมแพทย์อาจไม่ได้กำหนดแบบตายตัว แต่มีปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลต่อการประเมินค่าธรรมเนียมในแต่ละกรณี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้การคิดค่า DF มีความเป็นธรรม เหมาะสมกับระดับความเชี่ยวชาญ ความซับซ้อนของบริการ และทรัพยากรที่เกี่ยวข้องในการให้บริการทางการแพทย์ มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับการคิดค่า DF แพทย์


1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์ 

แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น ศัลยแพทย์ สูตินรีแพทย์ หรือนักจิตเวช หรือในคลินิกความงาม มักมีค่า DF สูงกว่าแพทย์ทั่วไป เนื่องจากการรักษาเฉพาะทางต้องอาศัยทักษะ ความรู้ และประสบการณ์เฉพาะด้าน แพทย์ระดับอาจารย์ ผู้ที่มีวุฒิบัตรพิเศษ หรือประสบการณ์ยาวนาน มักมีเรตค่าบริการสูงกว่า


2. ประเภทของบริการทางการแพทย์ 

สำหรับการตรวจเบื้องต้นทั่วไป จะมีค่า DF ต่ำกว่าการตรวจเชิงลึกหรือหัตถการที่ซับซ้อนการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคลกับการดูแลกลุ่มผู้ป่วย เช่น การทำจิตบำบัดแบบกลุ่ม อาจมีค่า DF ที่แตกต่างกันการทำหัตถการ เช่น ผ่าตัด เย็บแผล ถอนฟัน หรือส่องกล้อง หรือหัตถการสำหรับคลินิกความงาม มีค่า DF สูงกว่าการตรวจร่างกายหรือให้คำปรึกษาทั่วไป


3. ระยะเวลาและความเร่งด่วน

การให้บริการที่ใช้เวลานานหรือให้บริการนอกเวลาทำการ เช่น ตรวจกลางคืนหรือวันหยุด อาจมีอัตราค่า DF สูงกว่ากรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉิน ค่า DF อาจสูงขึ้นตามระดับความซับซ้อนและการตอบสนองที่รวดเร็วของแพทย์

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

4. สถานที่และมาตรฐานของสถานพยาบาล

โรงพยาบาลเอกชนหรือคลินิกเฉพาะทางที่มีมาตรฐานสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาจกำหนดค่า DF สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐ ทำเลที่ตั้ง เช่น โรงพยาบาลในเขตเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ มักมีค่า DF สูงกว่าพื้นที่ต่างจังหวัด เนื่องจากต้นทุน และค่าครองชีพที่สูงกว่า


5. ระเบียบของสถานพยาบาล

แต่ละโรงพยาบาลหรือคลินิกมีแนวทางการกำหนดค่า DF ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายทางการเงินหรือรูปแบบธุรกิจ เช่น การแบ่งรายได้ระหว่างแพทย์กับสถานพยาบาล


6. การครอบคลุมของประกันสุขภาพหรือสิทธิการรักษา

ในบางกรณี ค่า DF จะถูกปรับให้สอดคล้องกับสิทธิการรักษา เช่น สิทธิบัตรทอง 30 บาท ประกันสังคม หรือประกันเอกชน ซึ่งอาจมีอัตราค่าตอบแทนตามที่ภาครัฐหรือบริษัทประกันกำหนดไว้ล่วงหน้า


7. ลักษณะของการให้บริการ

การรักษาผู้ป่วยใน เช่น การอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล 1 คืนขึ้นไป มักมีค่า DF สูงกว่าแบบผู้ป่วยนอก เนื่องจากต้องมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และใช้เวลานาน


ค่า DF แพทย์ ภาษีจ่ายยังไง

ค่า DF ถือเป็นรายได้ของแพทย์ที่ต้องนำไปยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามกฎหมาย หากแพทย์ทำงานแบบรับจ้างหรือ Part-time โดยไม่ได้อยู่ในฐานะพนักงานประจำของสถานพยาบาล รายได้จากค่า DF จะถูกจัดอยู่ในหมวดเงินได้ประเภทที่ 2 หรือ 8 แล้วแต่กรณี และต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายก่อนโอนให้แพทย์ ซึ่งโดยปกติอยู่ที่ 3% หมอแต่ละคนจะต้องรวบรวมเอกสาร เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี และนำไปรวมยื่นภาษีปลายปีด้วย เพื่อคำนวณภาษีได้อย่างถูกต้อง และป้องกันปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง


ค่า DF ในวิจัย คืออะไร และค่า DF สัตวแพทย์ คิดจากอะไร

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

นอกจากในบริบทของบริการทางการแพทย์สำหรับมนุษย์ ค่า DF ยังมีการใช้ในงานวิจัยเพื่อระบุค่าตอบแทนที่จ่ายให้แก่แพทย์ผู้ให้ความร่วมมือ เช่น ให้คำปรึกษาด้านวิชาการ หรือตรวจสอบทางคลินิก ในกรณีของสัตวแพทย์ก็จะมีการกำหนดค่า DF สำหรับบริการที่เป็นสัตวแพทย์ให้แก่สัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน หรือรักษาอาการเจ็บป่วย

ค่าธรรมเนียมแพทย์ หรือค่า DF แพทย์ คือค่าอะไร และคิดจากอะไร

ค่าธรรมเนียมแพทย์เป็นส่วนสำคัญของค่าบริการทางการแพทย์ที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญ ความรับผิดชอบ และเวลาที่แพทย์ใช้ในการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม การเข้าใจว่าค่า DF แพทย์ คืออะไร ครอบคลุมอะไร และมีความแตกต่างจากค่าบริการอื่นอย่างไร จะช่วยให้คนไข้ หรือลูกค้าคลินิกเข้าใจระบบค่ารักษาได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คลินิกสามารถจัดการด้านค่าใช้จ่ายได้อย่างโปร่งใส มีมาตรฐาน และสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบการยื่นเบิกประกันหรือวางแผนด้านภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในยุคที่ระบบสุขภาพพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ความเข้าใจเรื่องค่าธรรมเนียมบุคลากรทางการแพทย์ หรือค่าแพทย์ตรวจรักษาต่อวัน ก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรรู้ เพื่อให้เข้าใจที่มาที่ไปอย่างถูกต้อง และเกิดความพึงพอใจในการใช้บริการทางการแพทย์ได้ เพราะฉะนั้นการมีโปรแกรมคลินิกที่ครอบคลุมเรื่องค่าธรรมเนียมๆ ต่างๆ ช่วยให้เจ้าของคลินิกทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น


คำถามที่พบบ่อย


ค่า DF มีการคิดเพิ่มในกรณีไหนบ้าง ?

  1. แพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ศัลยกรรม ฯลฯ
  2. ระยะเวลาการให้บริการยาวนานกว่าปกติ เช่น ใช้เวลากับผู้ป่วยนานหรือกรณีซับซ้อน
  3. ให้บริการนอกเวลาทำการ เช่น วันหยุดหรือเวลากลางคืน
  4. บริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น ให้คำปรึกษาเฉพาะกรณี หรือนัดติดตามเพิ่มเติม
  5. จำนวนครั้งหรือความถี่ของการรักษา เช่น นัดติดตามหลายครั้งในระยะสั้น
  6. สถานพยาบาลมีการกำหนดเรทเพิ่มตามประเภทการรักษา เช่น เคสที่มีอุปกรณ์เฉพาะร่วมด้วย
  7. แพทย์เป็นผู้อำนวยการคลินิกหรือเจ้าของสถานพยาบาลที่มีอัตราค่าธรรมเนียมเฉพาะตัว

หากพบแพทย์มากกว่าหนึ่งคนในวันเดียว จะเสียค่า DF กี่ครั้ง ?

หากผู้ป่วยเข้ารับการตรวจหรือปรึกษา แพทย์มากกว่าหนึ่งคนในวันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแพทย์เฉพาะทางคนละสาขา หรือในกรณีที่มีการส่งต่อไปยังแพทย์อีกคนเพื่อความเชี่ยวชาญเพิ่มเติม ผู้ป่วยจะต้องชำระค่า DF ตามจำนวนแพทย์ที่พบจริง เพราะแต่ละแพทย์ถือว่าให้บริการคนละส่วน คนละความรับผิดชอบ และมีเวลาตรวจเฉพาะตัวเอง ตัวอย่างเช่น

  • หากเริ่มจากการพบแพทย์ทั่วไป แล้วถูกส่งต่อไปพบแพทย์หัวใจ จะมีการคิดค่า DF แยก 2 รายการ
  • หากพบแพทย์ผิวหนังตอนเช้า และพบแพทย์ศัลยกรรมตอนเย็นในวันเดียวกัน จะมีค่า DF สำหรับทั้งสองท่าน

ค่า DF คิดเฉพาะตอนพบแพทย์เท่านั้นใช่ไหม ?

โดยหลักการแล้ว ค่า DF จะถูกคิดเฉพาะเมื่อมีการพบแพทย์หรือรับบริการทางการแพทย์โดยตรงเท่านั้น เช่น การตรวจวินิจฉัย พูดคุยปรึกษา หรือรับการรักษาเบื้องต้นจากแพทย์ อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจมีการคิดค่า DF เพิ่ม แม้ไม่ได้พบแพทย์โดยตรง ตัวอย่างเช่น

  • แพทย์ให้คำปรึกษาหรือพิจารณาแผนการรักษาผ่านเวชระเบียนโดยไม่พบตัว
  • แพทย์ออกใบรับรองแพทย์หรือวินิจฉัยกรณีพิเศษย้อนหลัง

หากมีการนัดติดตามผล จำเป็นต้องเสียค่า DF ซ้ำหรือไม่ ?

โดยทั่วไปหากมีการนัดติดตามผล ผู้ป่วยอาจต้องเสียค่า DF ซ้ำอีกครั้ง ในกรณีที่

  • เป็นการพบแพทย์ใหม่อีกรอบ
  • มีการตรวจร่างกาย วินิจฉัย หรือให้คำปรึกษาเพิ่มเติม

แต่ในบางกรณี เช่น นัดเพื่อติดตามผลที่ไม่ต้องพบแพทย์โดยตรง เช่น รับผลเลือดจากพยาบาล หรือเป็นนัดภายในช่วงเวลาที่คลินิกกำหนดว่ารวมอยู่ในค่า DF เดิม


ค่า DF สำหรับแพทย์เฉพาะทางแพงกว่าปกติหรือไม่ ?

โดยทั่วไป ค่า DF สำหรับแพทย์เฉพาะทางมักจะแพงกว่าการพบแพทย์ทั่วไป เนื่องจาก

  • แพทย์เฉพาะทางมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านสูง
  • ใช้ทักษะเฉพาะและประสบการณ์ในการวินิจฉัย/รักษาที่ซับซ้อน
  • อาจใช้เวลาตรวจมากกว่าและมีอุปกรณ์เฉพาะทางในการประเมิน

หากใช้สิทธิบัตรทอง / บัตรประกันสังคม ต้องจ่ายค่า DF เพิ่มไหม ?

หากใช้สิทธิบัตรทองหรือบัตรประกันสังคมในสถานพยาบาลที่อยู่ในเครือข่ายและตามสิทธิที่กำหนด โดยทั่วไปไม่ต้องจ่ายค่า DF เพิ่ม เพราะค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในงบประมาณที่รัฐจัดสรรไว้ให้แล้ว แต่ในบางกรณี เช่น ขอพบแพทย์เฉพาะทางโดยไม่ผ่านระบบส่งต่อ หรือเลือกแพทย์พิเศษนอกเหนือสิทธิอาจมีการเรียกเก็บเพิ่มเติม


ค่า DF รวมอยู่ในแพ็คเกจตรวจสุขภาพหรือไม่?

โดยปกติแล้ว แพ็คเกจตรวจสุขภาพของคลินิกหรือโรงพยาบาลจะคิดราคาแบบเหมาจ่าย ซึ่งจะรวมค่าใช้จ่ายหลายส่วนไว้ในราคานี้ เช่น ค่าวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการ ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าบริการตรวจโดยเจ้าหน้าที่ และรวมถึงค่าธรรมเนียมแพทย์ด้วย ดังนั้นในกรณีนี้ ผู้รับบริการไม่ต้องจ่ายค่า DF แยกต่างหากจากราคาของแพ็คเกจ เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของราคาที่จ่ายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีที่แพ็คเกจตรวจสุขภาพไม่ได้ครอบคลุมการพบแพทย์แบบเจาะจง เช่น ตรวจพิเศษหรือพบแพทย์เฉพาะทาง นอกเหนือจากรายการตรวจมาตรฐานอาจมีการเรียกเก็บค่า DF เพิ่มเติม ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสถานพยาบาล


Copyright © 2025 Proclinic Group Co., Ltd. All rights reserved.  

Published on : May 10, 2025